hostneverdie

weltrade

siamfocus

ตอนที่ 156 (บทความ) _ ประเพณีลอยกระทง ที่ควรเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

ประเพณีลอยกระทง ที่ควรเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
13 พฤศจิกายน 2562

       ประเพณีลอยกระทงมีมาช้านานแล้ว จำได้ว่าเกิดมาก็ได้ลอยกระทง เล่นประทัด จุดผางประทีป(หางประทีป)รอบๆบ้าน สว่างทั่วบ้าน ทั้งบ้านตัวเอง และบ้านของเพื่อนบ้าน สนุก และมีความสุขมากๆ และยังจำได้ว่าตอนนั้นอากาศหนาวถึงหนาวมากๆ งานลอยกระทงเลยยิ่งสนุก เพราะถึงแม้คนจะเยอะ แต่มันก็ไม่ร้อนเลย ยังต้องใส่เสื้อกันหนาวด้วยซ้ำไป กลับมามอง ณ หลายๆปีที่ผ่านมา เอาสัก 5 ปีก็ได้ ลอยกระทงทีไร เหงื่อแตกทุกที ขนาดอากาศยังเปลี่ยนแปลง แล้วรูปแบบประเพณีของเรา ที่้เราเป็นคนสร้างขึ้น กำหนดขึ้น มันจะเปลี่ยนแปลงบ้างไม่ได้เชียวเหรอครับ

       วัตถุประสงค์ของประเพณีลอยกระทงตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบันยังเหมือนเดิมหรือไม่ ผมก็ไม่แน่ใจ หรือมันกลายเป็นเพียงแค่ประเพณีทางธุรกิจไปแล้ว น้อยคน น้อยบ้านที่จะร่วมกันทำกระทงเพื่อไปลอยเอง ทั้งวัสดุ อุปกรณ์ไม่เอื้ออำนวย ทั้งไม่มีเวลา ทุกวันนี้ผมเลยมองว่าประเพณีลอยกระทงกลายเป็นธุรกิจไปแล้ว กระทงแปลกๆออกมามากมายให้ได้เลือกซื้อเพื่อเอาไปลอย

       นอกจากนี้การขอขมา และขอบคุณพระแม่คงคาก็คงจะมีอยู่ไม่กี่คนหรอกมั้งครับ ที่ตอนจะลอยกระทงลงน้ำ แล้วอธิษฐานว่า "ขอขมา และขอบคุณพระแม่คงคา ที่ให้น้ำแก่พวกเราได้ใช้ดื่ม ใช้ในชีวิตประจำวัน" เพราะส่วนมากก็จะขออธิษฐานในเรื่องส่วนตัวซะมากกว่า "ขอให้รวย" "ขอให้โชคร้ายลอยไป" "ขอให้ความเศร้าลอยไป" พระแม่คงคาคงยิ้มดีใจแน่ๆเลยครับ

       บางคนไม่สะดวกไปลอยจริงๆในน้ำ ก็อาศัยลอยในอินเตอร์เน็ตเอาก็ได้ แต่ลอยในอินเตอร์เน็ต ถามว่าอธิษฐานอะไรบ้าง มีขอบคุณพระแม่คงคาหรือไม่ ก็ตอบเลยว่า "ไม่" แถมบางคนยังโดนแซวอีก "ลอยในอินเตอร์เน็ตมันจะไปได้อะไร บ้ารึเปล่า ต้องไปลอยจริงๆสิ" ก็ว่ากันไปครับ ระหว่างลอยกระทง 4G กับลอยลงน้ำจริงๆ ปล่อยเขาสู้กันไป

       ฉีกมาดูทางวัสดุที่ใช้ทำกระทงกันบ้าง เมื่อก่อนใช้โฟมก็ว่าโฟมทำลายยาก ตอนนี้ใช้วัสดุธรรมชาติก็ว่าทำน้ำเน่าเสียอีก หรือจะเป็นกระทงขนมปังที่หวังให้ปลากิน แต่พอปลากินอิ่มแล้ว กระทงก็เหลือบาน ทำน้ำเน่าเสียอีกละ เอาจริงๆประเด็นของวัสดุไม่เท่าไหร่นะครับ ผมมองว่ามันเยอะเกินไปต่างหากเลยทำให้น้ำเน่าเสีย ถ้ามันมีน้อยๆหน่อย น้ำก็อาจจะไม่เน่าเสียง่ายๆหรอกครับ

       ประเด็นสุดท้ายที่จะพูดถึงคือ โคมลอย ในอดีตตัวเมืองยังมีไม่มาก ไม่ขยายตัวกว้างมาก พื้นที่ยังเป็นป่าซะส่วนใหญ่ การปล่อยโคมลอยมันจะไปตกตรงไหน ก็ไม่มีใครเห็น และก็ไม่สร้างความเดือดร้อนสักเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันเมืองมันกว้างมากๆ การปล่อยโคมลอยมันจึงเสี่ยงที่จะไปตกในจุดที่ไม่ควรตกได้ เช่น หลังคาบ้าน ในบริเวณบ้าน สายไฟฟ้า พื้นที่การเกษตร ฯลฯ หรือจะเป็นการเดินทางโดยเครื่องบินที่มันขยายตัวขึ้นมาก การปล่อยโคมลอยจึงเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกได้

       ถามว่าปีนี้ผมลอยกระทงมั้ย ตอบเลยว่า ลอยสิครับ แต่ผมใช้วัสดุสุดจะธรรมชาติเลยนะครับ ฮั่นแน่ คิดว่าผมลอยกระทงน้ำแข็งล่ะสิ ผิดครับ!!! ผมลอยกระทงน้ำเปล่าเลยครับ ผมเอาขันใส่น้ำขอขมา และขอบคุณพระแม่คงคาข้างคลองเลยครับ (ไม่อธิษฐานเรื่องส่วนตัวเลยด้วย) แล้วก็เทน้ำในขันลงคลองเลยครับ กระทงละลายหายไปในพริบตาเลยครับ ฮ่าๆๆๆ

       โดยสรุปแล้ว ในความคิดของผมนะ ประเพณีลอยกระทงควรคงไว้ แต่รูปแบบควรเปลี่ยนแปลง กระทงที่จะใช้ลอยควรมีน้อยๆ เช่น จุดท่าพระจันทร์(กรุงเทพ) มีกระทง 5 ใบ เปิดหมุนเวียนให้ประชาชนมาจับกระทงเพื่อขอขอมา หรืออธิษฐานตามใจ แล้วถึงเวลาปล่อยกระทง ก็ลอยเพียงแค่ 5 ใบนั้นก็พอ ขยะจะได้ไม่เยอะ โคมลอยก็เช่นกัน จุดประตูท่าแพ(เชียงใหม่) มีโคมลอย 2 ใบ เปิดหมุนเวียนให้ประชาชนมาจับโคมลอยเพื่ออธิษฐานตามใจ แล้วถึงเวลาปล่อยก็ปล่อยแค่ 2 ใบ หรือแหวกแนวมัดเชือกไว้ด้วยก็ได้ ไม่ให้โคมลอมมันลอยไปไหน พอไฟหมดก็ให้มันตกใกล้ๆแถวๆนั้นแหละ

       สังคมเปลี่ยน ความคิดของคนก็เปลี่ยนตาม จิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติของคนมีมากขึ้นทุกวัน ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่เราอย่าแค่คิด หรือพูดเลยครับ อยากให้ลงมือทำด้วย มันจะดีมากๆครับ

ขอบคุณครับ
ต.ต้น

ตอนที่ 155 (บทความ) _ แย่แล้ว ลืมรหัสผ่าน

แย่แล้ว ลืมรหัสผ่าน
5 พฤศจิกายน 2562

       "แย่แล้ว ลืมรหัสผ่าน" "แย่แล้ว ลืมพาสเวิร์ด" (จะเขียนทำไม 2 อันเนี่ย มันก็อันเดียวกันนี่หว่า) บางคนหนักเลย ลืมแม้กระทั่ง Username หรือชื่อผู้ใช้นั่นเอง เลยอยากจะถามท่านผู้อ่านว่า เคยลืมชื่อผู้ใช้ หรือรหัสผ่านเข้าใช้งานอะไรบ้างมั้ยครับ

       เคยสงสัยนะครับว่า ทำไมเพื่อน หรือคนรู้จักเปลี่ยนเฟสบุ๊ค เปลี่ยนไลน์กัน ตอนแรกก็นึกว่ามันมีปัญหากับใครหรือเปล่า หรือว่าแค่เบื่อๆ เลยอยากเปลี่ยน แต่พอได้รู้ความจริงว่า มันเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ แล้วจำรหัสผ่านไม่ได้ เลยต้องเปลี่ยนนี่เอง

       เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีทำให้เราค่อนข้างสะดวกสบายขึ้นครับ เราเข้าใช้งานแอพ หรือเว็บไซต์อะไร ส่วนมากก็จะกรอกชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่านแค่ครั้งแรกครั้งเดียวเลย แล้วระบบมันก็จะช่วยจำให้เลย ครั้งต่อๆไปเราก็แค่กดเข้าแอพ หรือเว็บไซต์ มันก็จะเข้าใช้งานได้เลย สะดวก สบาย รวดเร็ว แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเสี่ยงที่ว่า ถ้าเราต้องเปลี่ยนเครื่องที่ใช้งานล่ะ เราจะจำทั้งชื่อผู้ใช้ และรหัสได้หรือไม่

       เอาง่ายๆ ยกตัวอย่าง 2 แอพยอดนิยมในโทรศัพท์ นั่นก็คือ Facebook และ Line

       Facebook ใช้อีเมล์ หรือเบอร์โทรศัพท์เป็นชื่อผู้ใช้ เรากรอกแค่ครั้งแรก ครั้งเดียว แล้วระบบก็จำให้เลย แล้วถ้าสมมุติว่าเราใช้งานโทรศัพท์เครื่องนี้ยาวๆสัก 2 ปี ถามว่าเราจะยังจำรหัสผ่านได้หรือไม่ บางคนจำรหัสผ่านไม่ได้ก็ทำการขอรหัสผ่านใหม่ผ่านทางอีเมล์ แต่แล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่า อีเมล์เราก็จำรหัสผ่านไม่ได้อีก ฮาเลยครับ เพราะเคยเจอกับตัวมาแล้ว เพื่อนกันนี่แหละครับ จนต้องเปลี่ยนทั้งอีเมล์ และเฟสบุ๊ค

       Line ก็คงพอๆกับเฟสบุ๊คครับ แต่บางทีอาจจะหนักกว่าซะด้วยซ้ำ เพราะบางคนยังเข้าใช้งานเฟสบุ๊คผ่านคอมบ้างนะ อาจจะกรอกชื่อผู้ใช้ กรอกรหัสผ่านบ้างบางครั้งเลยทำให้จำได้ แต่ไลน์นี่ ส่วนมากร้อยละ 80 เล่นในโทรศัพท์ยาวๆเลย ไม่เคยเล่นในคอมเลย (ผมก็เคยเป็น 1 ใน 80% แต่ยังดีที่จำรหัสผ่านได้) ผมเลยคิดว่าเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ที ก็คงต้องเปลี่ยนไลน์ด้วยแน่ๆ เพราะมันลืมรหัสผ่านไปแล้วไงครับ

       แล้วในชีวิตเราก็ไม่ได้มีแค่ 2 แอพนี้เท่านั้นที่ต้องจำรหัสผ่านนะครับ แอพธนาคาร แอพทวิตเตอร์ แอพของทางราชการ แอพๆๆๆ แอ๊บแอ้!!! (ไม่ใช่ละ) แล้วถ้าคุณเคยจ่ายภาษี คุณจะต้องเจอกับการเข้าเว็บไซต์เพื่อจ่ายภาษีปีละ 1 ครั้ง ชื่อผู้ใช้ง่ายหน่อยเพราะมันใช้เลขบัตรประชาชน แต่รหัสผ่านนี่สิ ใช้แค่ปีละครั้ง ลืมสิครับ ก็ต้องขอรหัสผ่านใหม่ ทำไม๊ทำไมไม่ทำรหัสผ่านแบบ OTP ไปล่ะน้อออออ (OTP = One Time Password คือชุดรหัสผ่านใช้ครั้งเดียวที่ระบบของเราสร้างขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต)

       ยกตัวอย่างแค่นี่ก็พอนะครับ เพราะตอนนี้หลายคนก็อาจจะเริ่มกลุ้มใจละ เฮ้ย ชื่อผู้ใช้ กับ รหัสผ่านของเรา มีอะไรบ้างหว่า ถ้าโทรศัพท์พัง ต้องเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ ก็ต้องเปลี่ยนเฟสบุ๊ค เปลี่ยนไลน์ด้วยแน่ๆเลย

       เอาน่ะ อย่าเพิ่งเครียดครับ ถึงวันนี้เราจะพลาดไปแล้ว แต่เราก็แก้ไขในวันข้างหน้าได้ครับ ผมอยากจะให้ท่านผู้อ่าน พยายามออกจากระบบทุกครั้งที่เลิกใช้งาน แล้วก็ค่อยเข้าระบบใหม่ครับ ถึงมันจะดูยุ่งยาก แต่มันก็ทำให้เราไม่ลืมทั้งชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่านแน่นอนครับ รวมไปถึงความปลอดภัยที่คนอื่นจะมาเล่นโทรศัทพ์ของเรา แล้วเข้าไปดู ไปอ่านอะไรๆที่เราไม่ได้อนุญาตด้วยนะครับ แต่สำหรับไลน์ อันนี้ก็คงต้องจดรหัสผ่านไว้ละครับ เพราะมันดันไม่มีปุ่มออกจากระบบซะงั้นแหละ

       ก็หวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้เปลี่ยนวิธีการใช้งานแอพ หรือเว็บไซต์ไปบ้างนะครับ ก็เพื่อจะได้จำรหัสผ่านได้ ก็ควรต้องใช้งานมันบ่อยๆล่ะครับ จะได้จำครับ

ขอบคุณครับ
ต.ต้น