ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 118 (บทความ) _ ว่าด้วยเรื่องของ "เพื่อน"

ว่าด้วยเรื่องของ "เพื่อน"
22 / 07 / 2558

     ก่อนอื่นเลยที่ท่านจะอ่านบทความนี้ ผมคงต้องขอถามก่อนว่า ท่านมีเพื่อนเยอะ หรือมีเพื่อนน้อย

     ถามว่าแบบไหนเรียกว่าเยอะ แบบไหนเรียกว่าน้อย อืม...ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันนะครับ น่าจะประมาณว่าถ้าเป็นคนเพื่อนเยอะ เวลาไปไหนมาไหนก็จะเจอแต่คนรู้จักล่ะมั้ง แล้วก็มีคนชวนไปที่โน้น ที่นี่ ที่นั่นบ่อยๆล่ะมั้งครับ ถ้าเป็นคนเพื่อนน้อยก็ต้องตรงกันข้ามกับคนเพื่อนเยอะไงครับ ไปไหนก็ไม่ค่อยมีคนรู้จัก คนชวนไปไหนมาไหนก็ไม่มี น่าจะประมาณนี้ล่ะมั้งครับ

     สำหรับตัวผมเองน่าจะจัดอยู่ในประเภทเพื่อนน้อยได้ล่ะครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าน้อยซะจนไม่มีใครรู้จักนะครับ อยู่ในที่ทำงานก็ยังพอมีคนรู้จักผมอยู่บ้าง แต่จะไม่ค่อยมีใครชวนไปไหน ผมเลยขอยกตัวเองเข้าในพวกเพื่อนน้อยซะเลย

     แต่เอาจริงๆจากความรู้สึกของผมแล้ว ผมว่าผมมีเพื่อนน้อยจริงๆแหละหากจะเทียบกับคนที่มีเพื่อนเยอะนะ เวลาไปไหนกับคนเพื่อนเยอะ รู้สึกอิจฉาเขาเหมือนกันนะครับ เดี๋ยวก็มีคนทัก เดี๋ยวก็มีคนคุยด้วย เดี๋ยวก็เจอคนรู้จัก (คนทัก คนคุยด้วย คนรู้จัก อาจจะไม่นับเป็นเพื่อน แต่สำหรับคนเพื่อนน้อย มันอาจจะมีความรู้สึกอิจฉาได้นะ) ขนาดทำงานกันคนละอย่าง คนละหน้าที่ มันยังมีความสามารถรู้จักกันได้ เป็นเพื่อนกันได้เลย ผมนับถือมันเลย

     แต่หากย้อนมาดูตัวเองมาคิดว่า เฮ้ย ทำไมเรามีเพื่อนน้อย ก็จะพบคำตอบล่ะครับ ขอสรุปโดยรวมๆเลยว่า สันดานเรามันรักสงบ รักสันโดษ ชอบทำอะไรด้วยตัวเอง ชอบปิดทองหลังพระ เมื่อรู้เช่นนี้แล้วก็อิจฉาคนที่มีเพื่อนเยอะได้ แต่อย่าพยายามทำตาม เพราะมันอาจทำให้เราเสียความเป็นตัวเองไป แถมจะหงุดหงิดชีวิตไม่มีความสุขเอาได้

     ทีนี้มาลองแตกประเด็นจากข้อสรุป หรือสันดานดูกันต่อ ว่าทำไมเราเพื่อนน้อย ความรักสงบ รักสันโดษ แน่นอนว่าย่อมไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งในชีวิตประจำวันมากนัก เช่น บางทีเราอยากอ่านหนังสือ เพื่อนดันมาชวนไปเที่ยว, บางทีเราอยากนอน เพื่อนก็ดันมาชวนไปกิน, บางทีเราอยากกินง่ายๆข้างทาง เพื่อนก็ดันมาชวนไปกินบนห้าง หรือบางทีเราอยากซื้อของถูกๆ เพื่อนก็ชวนซื้อของแพงๆ อะไรแบบนี้เป็นต้น นี่แหละครับคือสาเหตุที่ทำให้เรามีเพื่อนน้อย เพราะเรารักสันโดษ เราอยากทำอะไรที่มันสงบๆ ยกเว้นแต่จะเจอเพื่อนที่คล้ายๆกัน แบบนั้นเป็นเพื่อนสนิทอยู่กันยาวๆ

     ชอบทำอะไรด้วยตัวเอง อันนี้ก็เป็นสาเหตุที่ใหญ่มิใช่น้อย เอาง่ายๆในชีวิตประจำวัน อยากกินข้าว ทำไงครับ ก็ไปหากินเอง กินคนเดียวด้วยไม่ชวนใคร ประเภทที่จะให้เพื่อนซื้อให้หน่อย ฝากเพื่อนซื้อ หรือชวนเพื่อนไปกินด้วยกัน เป็นอะไรที่ยากเอาเรื่องเลย จะเดินทางไปไหนสักแห่ง ก็จะหาทางไปเอง ไม่ขอให้ใครมาช่วย ยกเว้นจะจำเป็นจริงๆ อะไรอีกล่ะ...คิดไม่ออกแฮะ แต่ก็ต้องขอบอกว่ามีเยอะ และหลากหลายมาที่คนเพื่อนน้อยชอบทำอะไรด้วยตัวเอง (จริงๆก็อาจจะแฝงด้วยคำว่า เกรงใจ ด้วยก็ได้)

     สุดท้ายที่ปิดทองหลังพระนะครับ คนแบบผม หรือคนเพื่อนน้อยส่วนมากจะมีนิสัยแบบนี้แหละครับ ทำงานใหญ่ๆมีคนชื่นชมเยอะแยะ แต่ก็ไม่ขอออกหน้า ขอหลบข้างหลังดีกว่า ปล่อยคนอื่นได้หน้าไป เพราะรักสันโดษจึงทำแบบนั้น ใครเดือดร้อนอะไร มักจะยื่นมือเข้าไปช่วย แต่พอช่วยเสร็จก็หายเข้ากลีบเมฆ ไม่ต้องการอะไรตอบแทนแม้กระทั่งคำขอบคุณ ยังมีอีกเยอะครับที่คนเพื่อนน้อยชอบหลบข้างหลัง (ไม่ใช่เกย์เข้าข้างหลังนะ) ก็ลองๆคิดดูละกันนะครับ ผมไม่ขอเขียนยาว

     มีข้อดีมากๆอยู่ข้อหนึ่งสำหรับคนเพื่อนน้อย นั่นก็คือ ถ้าเขาจะมีเพื่อน เขาจะได้เพื่อนที่นิสัยคล้ายๆกัน และเป็นเพื่อนที่ดีมากๆต่อกัน (บางที เพื่อนที่นิสัยต่างกันสุดขั้ว ก็เป็นเพื่อนสนิทกันได้ เพราะมันมีนิสัยบางอย่างเชื่อมกันจนสนิทได้) เป็นเพื่อนสนิทที่พูดคุยกันได้ทุกเรื่องเลย เรียกว่าไว้ใจที่จะเปิดเผยความลับได้ล่ะครับ มันอาจจะต่างจากคนเพื่อนเยอะนิดหน่อยตรงที่ว่า คนเพื่อนเยอะมีเพื่อนสนิทเหมือนกัน แต่ความไว้ใจที่เปิดเผยความลับอาจจะไม่สนิทใจเท่าคนเพื่อนน้อยนั่นเอง

     ข้อเสียของคนเพื่อนน้อยที่ใหญ่สุดๆก็คงมีอยู่ข้อเดียวที่ผมเจออยู่ล่ะครับ นั่นก็คือ เวลาลำบากอะไร หรือต้องการคนช่วยเหลือ มันจะมองหาใครช่วยไม่ได้เลยไงล่ะครับ แค่จะฝากใครสักคนซื้่อของให้หน่อย เพราะเราไม่สะดวก ยังหาไม่ได้เลยครับ

     อีกนิดก่อนจบบทความ คนเพื่อนน้อยไม่ใช่มีสาเหตุมาจากสันดานอย่างเดียวนะครับ มันอาจจะมีสาเหตุมาจากหน้าตาที่ไม่รับแขกด้วยก็ได้นะครับ บางคนหน้างอ หน้าโหด ใครเจอก็คิดว่าคนๆนี้นิสัยไม่น่าคบแน่ๆเลย เขาเลยไม่เข้าหาครับ ท่าทางก็มีส่วน บางคนท่าทางนักเลง ท่าทางกวนบาทา คนที่เจอเขาก็ไม่อยากคบก็มีครับ

     จะเพื่อนเยอะ หรือเพื่อนน้อย แต่ก็ขอให้มีเพื่อนไว้นะครับ เพราะมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม การมีเพื่อนสำคัญต่อการใช้ชีวิตมากครับ มีเพื่อนดีๆสัก 1 คน ชีวิตก็สนุกเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ

ความคิดเห็น