1 ต.ค. 2558
นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่ผมไปเที่ยวกับน้องแค่ 2 คนตามประสาพี่น้อง ที่เที่ยวที่เลือกไปน้องก็เป็นคนจัดการทั้งหมด ผมทำหน้าที่แค่ผู้ติดตาม เรื่องราวจะเป็นยังไง เชิญอ่านยาวๆได้เลยครับ
ณ เช้าของวันศุกร์ที่ 25 กันยายน ผมกับน้องต้องรีบตื่น รีบเดินทางไปที่หมอชิต เพราะถ้าขืนมัวชักช้า มีหวังเจอรถติด แล้วไปถึงเกาะช้าแน่ๆ ผมกับน้องเดินทางโดยรถเมล์สาย 104 ไปลงสุดสายที่หมอชิต แล้วก็เดินวนๆๆหารถที่จะไปศรีราชา จนมาเจอกับ ศรีราชา ทัวร์ ผมก็ได้รถเที่ยว 07.00 น. ตอนที่ไปซื้อตั๋วก็ 06.45 น.แล้ว ดีนะที่ทันเที่ยว 7 โมง ไม่งั้นคงรออีกนานเลย (มีคนบอกให้ไปรถตู้ ถ้าไปรถตู้ ก็ไม่เท่สิ ไปรถทัวร์เท่กว่า..ตรงไหน ฮ่าาา)
มืดๆเลยครับ หมอชิตแทบจะไม่มีคนเลย
ยืนอยู่หน้ารถกันแบบ งงๆ ทั้งผม ทั้งลุงเสื้อขาว ใช่คนนี้รึเปล่าน้อ
ตั๋วรถทัวร์ครับ น่าจะขยับเครื่องกับกระดาษให้ตรงช่องสักหน่อยเนอะ
เจอห้องน้ำติดป้ายชวนสงสัยด้วยครับ เป็นห้องน้ำ แต่ห้ามเข้า ผมไปถามคนขับจึงได้คำตอบว่า ห้องน้ำไม่มีโถส้วมครับ มึนตึ๊บเลย
งง เลยครับ ดีนะที่ไปถามก่อน ไม่งั้นเปิดมาอาจจะเจอผี ฮ่าาา
เดินเท้ามาเรื่อยๆ จนถึงสะพานข้ามไปท่าเรือ
วงเวียนปลาตัวใหญ่
ป้ายบอกข้อมูลที่น่าเที่ยวของ จ.ชลบุรี
เจอตะพาบน้ำ ถามหาท่านผู้เฒ่าเต่าเลย
บรรยากาศริมฝั่ง ลมเย็นๆสู้กับแดดร้อนๆ
นั่งตกปลากันเพียบเลยครับ
ทีแรกนึกว่าคนจะน้อย ที่ไหนได้ พอถึงเวลาเรือออก คนเต็มเรือเลย
ถ่ายทำไม จะเอาอะไร ฮ่าาา
ถึงแล้วววว รูปนี้ถ่ายตอนกำลังจะกลับนะครับ เพราะตอนมาถึง ไม่มีจังหวะจะถ่ายเลยครับ
ต้องรีบเดินหนีพี่ๆที่จะให้เช่ารถ น่ากลัวมากกกกก
ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยว เดินๆๆ
แล้วก็เดินๆๆ
ร้านสะดุดตามากครับ แม้จะไม่ใหญ่ แต่มีพลังงานอะไรบางอย่าง ดึงดูดมาก
ชื่อร้านชัดๆ
แวะดูสัตว์น้ำกันสักหน่อย
ปลาดาว และปลิงทะเล
เอ๊ะ นี่มันตัวอะไร
ปลานีโม่ เอ้ย ปลาการ์ตูน
สถานที่นี้ ปิดเงียบกริบ อดดูข้างในเลยครับ
บรรยากาศไกลๆ ทางเดินไปสะพานอัษฎางค์
ดูสะพานอัษฎางค์ใกล้ๆ มุมยอดนิยม
ชื่อสะพานเน้นๆ
จอดเรือได้แบบ อืม...ขนานกันดีจริงๆ
ลองถ่ายย้อนขึ้นบกดูบ้าง
ข้อมูลของสถานที่แห่งนี้
แวะพักที่สะพานอัษฎางค์จนมีแรงขึ้นมา ก็ออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายหลักจริงๆนั่นก็คือ หาดถ้ำพัง ระยะทางจากสะพานอัษฎางค์ ไปยังหาดถ้ำพังตามที่ป้ายบอกไว้คือ 1,000 เมตร หรือ 1 กิโลเมตรนั่นเอง ทางเดินไปหาดมีทั้งขึ้นเขา ลงเขา แต่ทำไมถ่ายรูปออกมาแล้ว มันเหมือนถนนเรียบๆก็ไม่รู้ สงสัยฝีมือจะไม่ถึง (ฮ่าา) ตอนที่เดินไปหาดถ้ำพัง เวลาน่าจะสักบ่ายโมงได้ล่ะครับ แดดเปรี้ยงเลย ร้อนสุดๆ แขนผมแดงเลย เพราะไม่ได้ใส่เสื้อแขนยาว แต่ระหว่างที่เดินไป ก็ระแวงไปด้วยครับ กลัวว่าพี่คนเดิมจะขับมอไซค์ตามมาอีก "เช่ามอไซค์เถอะน้อง" อะไรประมาณนี้
ระหว่างที่เดินไปก็แวะดูโน้น นี่ นั่นไปเรื่อยๆครับ ทำให้ไม่เหนื่อยมาก ใครยังไม่เคยลองเดิน ผมแนะนำว่าต้องลองครับ แล้วคุณจะได้พบกับประสบการณ์ใหม่แบบ สโลว์ไลฟ์ (slow life) ที่ไม่สามารถหาได้จากการขับมอไซค์โฉบไปโฉบมาแน่นอนครับ
เดินๆๆ นักท่องเที่ยวต้องเดิน
ทางมันขึ้นเนินนะ แต่ถ่ายรูปออกมา ทำไมดูมันไม่เป็นเนินเลย
นี่ก็ขึ้นเนิน ชันมากด้วย แต่ถ่ายรูปออกมา เหมือนเดินทางเรียบๆ ไรว๊าาา
รูปนี้เหมือนจะเป็นเนินนิดๆ
รูปนี้ชัดเจนสักที ทางมันขึ้นเนิน ชันมากครับ เดินเหนื่อยเลย
แอบถ่ายเรือไกลๆ
แวะถ่ายรูปมุมสูง ถ้าขับมอไซค์มา อาจจะไม่ได้มุมนี้มาก็ได้
ถ่ายเอาอะไร ฮ่าาา
คุณตำรวจ : อ้าว แล้วเมื่อกี้มากันยังไง
ผม : เดินมาครับ
คุณตำรวจ & เจ้าของรีสอร์ท : ห๊า (อึ้งไป 2 วิ) ขยันเดินจริงๆ
ตรงอาคารที่ผมพักมีระเบียงกว้างด้วยครับ ตรงนั้นมองเห็นชายหาดสวยเลย ลมก็พัดตลอดเวลา เย็นสดชื่นมากครับ ถ้ามากันหลายๆคน คงสนุกน่าดู (ลืมถ่ายรูปมาได้ยังไงเนี่ย)
มุมสูง มุมกว้างของหาดถ้ำพังยามบ่าย
บรรยากาศดีจริงๆเลยเนอะ
พนักงานที่รีสอร์ทนี่ เยอะจริงๆ แถมต้องตอกบัตรด้วยนะ ทำงานเป็นมาตรฐานสากลมาก
หน้าห้อง
เตียงนอนในห้อง
ห้องน้ำในตัว
น้องหมา เพื่อนตอนผมไปถึง โดนจับมามัดไว้ เพราะเมื่อวานแอบหนีเที่ยว
ณ มุมๆหนึ่ง
ณ มุมๆหนึ่งอีกสักที
สถานที่สำคัญอีกแห่งของเกาะ
สะพานทอดยาวลงไป เราก็ต้องเดินไป
บรรยากาศยามเย็น 4 โมงกว่าๆ
ถึงแดดจะร้อน แต่ก็มีลมช่วยให้หายร้อน
จุดเด่นของรูปนี้คือ ต้นไม้ที่สูงใหญ่ตรงโน้นไง
มันคือ อะไร ???
แปลงร่างงงงง
ป้ายทะเบียนมอไซค์ ที่ผมใช้บนเกาะ
บริเวณหาดของสะพานอัษฎางค์ ตกเย็นก็มีคนมาเล่นน้ำกันเยอะเลย
ถึงทะเล ก็ต้องมีรูปเท้าโดนน้ำ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง
อีกฝั่งของสะพานอัษฎางค์ ก็มีหาดให้ลงเดินเหมือนกัน
คลื่นซัดมาแล้วววว
นี่คือ ถุงเท้าทราย ฮ่าาาา
แสดงว่า เจ้าถิ่นคงดุจริงๆ ถึงขนาดต้องมีป้ายเตือน
เห็นโน้นมั้ย ชายเสื้อเหลือง
น้องบอกว่า อยากได้มุมที่คนอื่นไม่ค่อยถ่าย เลยไปซะไกลเลย
แล้วทีนี่ผมก็ได้พบกับสัตว์เลี้ยง (รึเปล่า) ของคนที่นี่ นั่นก็คือ หมูป่านั่นเองครับ มันดูเชื่องๆน่ารักดีครับ แต่ด้วยความที่ผมไม่คุ้นเคย ก็เลยไม่ขอสู้ เลยรีบหนีซะอย่างงั้น
แม่หมูเดินนำ ลูกน้อยเดินตาม รูปนี้จะคลาสสิคมากครับ เสียดายถ่ายไม่ทัน
มีหมูมาต้อนรับ แต่ไม่กล้าเล่นด้วย เพราะไม่คุ้นเคย
ตกแล้ววววว
แสงสวยทีเดียว
หันกล้องมาถ่ายอีกฝาก ไม่มีแดดแล้ว คนลงเล่นน้ำเยอะเลย
น่าลงเล่นมากครับ
นั่งกินข้าวไป คุยกันไป ชมบรรยากาศทะเลยามกลางคืน ที่มืดสนิท เห็นแต่ไฟเรือที่จอดลอยลำอยู่กลางทะเลไกลๆ รวมไปถึงแกล้งน้องหมาเจ้าถิ่นไปด้วย กับข้าว 3 อย่าง..เกลี้ยง ข้าว 1 โถ..เกลี้ยง (ได้คนละ 3 จาน) เบียร์อีก 1 ขวด เกลี้ยงทุกอย่างจริงๆ พร้อมกับเก็บจานให้ด้วยอย่างเรียบร้อย สะใจมาก ที่เอาชนะความอึ้งคนที่รีสอร์ทได้ เออ...ปริมาณอาหาร ถือว่าเหมาะสมกับราคา รสชาติก็ถือว่าผ่านเลยครับ
กับข้าว 3 อย่าง ข้าว 1 โถ เกลี้ยงงงงง
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ผมกับน้องก็ออกมานั่งเล่นที่ระเบียงต่อจนน่าจะประมาณห้าทุ่ม คุยกันไป ชมวิวไป มีน้องหมาเจ้าถิ่นที่โดนแกล้งตอนกินข้าวมานอนเฝ้าเป็นเพื่อนด้วย (2 ตัว) น้องหมาก็คงจะเหงา เพราะคืนวันศุกร์ยังไม่มีใครมาพักเลย ก็เข้านอน พร้อมกับเสียงคลื่น ซ่าๆๆๆ
สรุปว่า วันแรกบนเกาะสีชัง ผมเดินเท้าเป็นระยะทางรวมโดยประมาณ 3-4 กิโลเมตร ดูมันก็ไม่เยอะนะ แต่ทำไมมันเหนื่อยมากก็ไม่รู้ (สงสัยมันจะสะสมจากการเดินบนฝั่งเยอะด้วย หลายกิโลอยู่นะ)
เช้าวันต่อมา ทีแรกตั้งใจจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นครับ แต่ก็นะ ความขี้เกียจชนะเลิศอีกจนได้ สุดท้ายก็ตื่นช้าอีกนิด ประมาณหกโมงกว่าๆล่ะครับ เช้านี้ก็เหลือเวลาไม่มาก เพราะผมวางแผนไว้ว่าจะต้องขึ้นเรือกลับฝั่งรอบ 11 โมง พอตื่นมาก็ล้างหน้า แปรงฟัน ออกไปสำรวจจุดที่เหลือของเกาะต่อทันทีครับ เสร็จแล้วก็กลับมาเล่นน้ำที่หาดถ้ำพังจนหนำใจ จนได้เวลาอันสมควร ก็บอกลาคนที่รีสอร์ท เดินทางกลับล่ะครับ ถึงตรงนี้ผมขอเล่าเรื่องด้วยภาพอีกครั้ง เป็นการปิดท้ายบทความนี้ครับ
คาดว่ามันคงเจอกันทุกวัน สู้กันทุกวันแบบนี้แหละ
มุมสวยๆยามเช้าที่ท้ายเกาะ
หาดหินสินะ ลงเล่นน้ำไม่ได้เลย
แต่ขยะมันเยอะจริงๆนะ
เหมือนจะลงเล่นน้ำได้ แต่จริงๆไม่ได้ เพราะหินทั้งนั้น
มื้อเช้า หมูปิ้ง ข้าวเหนียว .. ข้าวเหนียวน้อยเกิ๊น 5 บาท ได้ 3-4 คำก็หมดละ
มุมสูงอีกที คราวนี้ถ่ายตอนเช้า แสงสวยมาก
ถ่าย ณ ระเบียงห้อง
เก่าแก่ขนาดไหน เดาไม่ถูกจริงๆ
เดินหาดถ้ำพัง เดินสำรวจ
คลื่นน้ำแรงไม่ใช่เล่น
ถ่ายอีกมุมของหาด ที่ใครไม่ค่อยมาถ่าย
ขยะลอยมา ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง เยอะไม่ใช่เล่นเลยนะครับ
ทางรีสอร์ทก็ไม่ได้นิ่งดูดายนะครับ ช่วยกันเก็บขยะกันน่าดู
นี่ครับ ฝรั่งใจดี ช่วยเก็บขยะออกจากหาด
ผมก็ช่วยแล้วนะ เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่ช่วย แต่ผมช่วยได้ไม่เยอะ เพราะมีเวลาไม่มาก ต้องรีบเตรียมตัวกลับ
ฝรั่งแม่ลูกครับ คนหนึ่งชอบลงน้ำ อีกคนกลัวน้ำ เห็นแล้วก็เรียกรอยยิ้มได้
แอบถ่ายคู่รัก
นี่ก็อีกคู่
ก่อนจะกลับ ถ่ายหาดถ้ำพังยามสายๆอีกสักรูป คนก็เริ่มทะยอยมาเล่นน้ำกันแล้ว
เจอท้ายรถตุ๊กๆเข้าไป อึ้งเลยครับ
บ๊ายบาย
เรือข้ามที่ใช้ข้ามฝั่งกลับครับ
เฮ้ย จะรีบไปไหน อีกนิดสิ ... อีกนิดก็ได้ เกาะสีชัง มีหาดให้เล่นน้ำแค่ไม่กี่หาดนะครับ เพราะส่วนใหญ่ของเกาะจะเป็นหินครับ บริเวณหาดจึงเต็มไปด้วยหิน เกาะจึงมีหน้าผาเยอะหินกว่าหาดลงเล่นน้ำครับ
จบแล้ววววววว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น