hostneverdie

weltrade

siamfocus

ตอนที่ 66 (บทความ) _ ลาก่อน แซลลี่


ลาก่อน แซลลี่

     เริ่มเล่นเกมนี้ เพราะมีเสน่ห์เหมือนเกม RPG หรือเกมภาษา ที่เคยเล่นๆมา เช่น ไฟนอลฯ ดราก้อนเควส ฯลฯ
     ตัวเกมมีตัวละครให้เลือกใช้หลากหลาย แล้วแต่ใครจะชอบตัวไหน และใช้ตัวนั่นๆผ่านด่านไป
แต่ละคน จะมีแนวทางทีมของตัวเอง ที่คิดว่าดีที่สุด เหมาะกับสไตล์ของตัวเองที่สุดไว้ใช้ผ่านด่าน

     การที่เรามีตัวละครที่ไม่เก่ง และเลเวลของเราน้อย ทำให้เล่นไม่ผ่านด่านนั้น 
เราจึงต้องหันไปเก็บเวลของเราก่อน บวกกับการค้นหาตัวละครใหม่ๆที่ดีกว่านี้มาเล่น และเก็บเวลให้ตัวละคร
     พอตัวละครเก่ง เวลเราเยอะ กลับไปเล่นด่านที่ไม่ผ่าน แล้วก็ผ่านได้ในที่สุด คือ เสน่ห์ของเกม RPG อย่างแท้จริง

ตัวละคร 1-5 ดาว จะเก่งไล่ระดับกันขึ้นไปเรื่อยๆ 
ในทางเกม RPG นั้น หากใครได้ตัวละครระดับ 5 ดาว จะถือว่าสุดยอดของตัวละคร เล่นผ่านด่านได้สบายๆ และเคลียร์ได้แน่นอน
ส่วนคนที่ไม่มีตัวละครระดับ 5 ดาว ก็จะผ่านด่านยากหน่อย แต่สักวันหนึ่งก็ต้องได้ตัวละครระดับ 5 ดาวมาครอบครอง

เสน่ห์ของเกมนี้ ที่คล้ายกับเกม RPG น่าจะสิ้นสุดลงที่แถวๆด่านที่ 108 เพราะ...
ตั้งแต่ด่าน 108 ขึ้นไป ตัวละครระดับ 5 ดาว แทบจะไม่มีประโยชน์เลย
ตัวละครที่มีประโยชน์ขึ้นมา กลับเป็นตัว 1 ดาว ที่วิ่งเร็วกว่านรก เอาไว้เป็นตัวชนๆๆๆ
แล้วตัวละครข้างหลังของ 1 ดาวคือใคร คำตอบคือ ระดับ 4 ดาว ที่ตีสแปลช
จึงเกิดคำถามขึ้นจากผู้เล่นหลายคนว่า แล้วตัวละคร 5 ดาว จะมีไว้ทำแมวอะไร(วะ)

อีกประเด็นที่สำคัญคือ ตั้งแต่ด่านที่ 1-108 แต่ละคนจะใช้ทีมที่แตกต่างกันไป เพื่อให้ผ่านด่านได้ .. นี่คือ เสน่ห์ของเกม
แต่หลังจากด่าน 108 ขึ้นไป แทบจะต้องใช้ทีมเดียวกันเพื่อผ่านด่านนั้นๆ ทำให้เสน่ห์เริ่มหายไป
หนักขึ้นไปอีกคือ คนที่เล่นไม่ผ่าน ก็จะรอให้มีคนมาเฉลยว่า ด่านที่เราติดนั้น เล่นยังไงให้ผ่าน
พอมีคนมาเฉลยให้ ก็ต้องใช้ทีมที่เขาเฉลยนั้นแหละ เล่นให้ผ่านๆไป ... 
"ผ่านๆไป" นี่เราเล่นเกมนะครับ ไม่ใช่ทำข้อสอบ จะได้มาลอกๆกัน เพื่อให้มันผ่านๆไป 
เราเล่นเกมแก้เครียด เล่นเอาสนุก มีรอยยิ้มตอนที่เล่น ไม่ใช่เล่นแล้วเครียดกันนะครับ

เสน่ห์ของเกมจบลงแล้วครับ ตัวระดับสูงๆ ตัวเก่งๆ แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยในด่านหลังๆ (มีประโยชน์แค่เอาไว้ตีกันเองในโหมด PVP)
ทีมที่หลายหลากไม่สามารถผ่านด่านนั่นๆได้ มีแบบฟอร์มทีมแค่ไม่กี่แบบที่ใช้ผ่านได้ และ ใช้ตัวละครที่ไม่ใช่ระดับสูงสุดด้วย

แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ครับ คนทำเกมอาจจะมีด่านที่ต้องใช้ตัวระดับ 5 ดาวเท่านั้นที่จะเล่นผ่านก็ได้ครับ

ทิ้งท้ายกับข้อผิดพลาดของคนทำเกม...

     1. GACHA ที่เป็นที่กล่าวขวัญกันมาก ว่าได้ 5 ดาวยากมากกกกก ซึ่งมันก็ยากจริงๆ เพราะผมเองก็หาแทบไม่เจอ เล่นจะเวลจะ 90 มี KSM เพียง 1 ตัว ที่เป็นตัวเทพ (พึ่งได้ตอนเลเวล 80 กว่าๆด้วยซ้ำไป) ส่วนเทพ 5 ดาวอื่นๆไม่เคยได้เลย ระบบสุ่ม ไม่ควรจะมี 

หรือถ้าจะมี ก็ควรเป็นระบบสุ่มที่มีคุณภาพมากกว่านี้ 
จริงๆควรมีระบบของเกม RPG คือ การปลดล็อคตัวละคร เช่น เล่นถึงด่านไหน ก็ได้ตัวละครตัวนั้นไป หรือจะให้เป็นระบบซื้อก็ยังดีกว่าระบบสุ่มด้วยซ้ำไป เพราะอย่างน้อยๆ ก็เห็นชัดๆ ว่าได้ตัวละครตัวนี้ ตัวนั้นแน่ๆ ไม่ต้องมาวัดดวงกับการสุ่ม เพราะคนที่ดวงดี ก็ดีใจหาย 

สุ่มยังไงก็ได้ตัวดีๆ แต่กับคนที่ดวงซวย ก็ซวยใจหายเช่นกัน อย่างผมไง เล่นมาจหนเวลจะ 90 ผ่านด่าน 120 แล้ว แต่มี KSM แค่ตัวเดียวอย่างที่บอกไป
อาจจะมีคนแย้งว่า ถ้าเป็นระบบซื้อ แล้วคนที่ไม่อยากซื้อล่ะ จะเล่นผ่านด่านยากๆได้ยังไง 
คำตอบก็คือ ตัวอย่างเกมที่เป็นระบบซื้อก็มีให้เห็นกันเยอะแยะ ว่าไม่ซื้อก็ผ่านด่านได้ แต่มันจะลำบากหน่อยแค่นั้นเอง และเชื่อว่า ตัวเกมในปัจจุบัน ก็ไม่น่าจะยากจนเวอร์ขนาดนี้

     2. ระดับของ พลังโจมตี พลังชีวิต เพิ่มๆ ลดๆ แล้วแต่อยากจะปรับ บางทีปรับแม้กระทั่งความเร็วในการโจมตี ความเร็วการเคลื่อนไหว มันเกินไปครับ หาความแน่นอนไม่ได้เลย 
บางคนมองว่าดีๆๆ ปรับให้เก่งขึ้น แต่บางคนก็มองว่า หาความแน่นอนไม่ได้ ไม่มีความเป็นมืออาชีพ
ปรับไป ปรับมา ตัวไหนเก่ง ตัวไหนกาก ตัวไหน 3 ดาว ตัวไหน 5 ดาวกันแน่ ทำไม 3 ดาวบางตัว เก่งกว่า 5 ดาวอีก 

     3. ตัวละครที่มาจากอีเว้นท์ จริงๆมันไม่ควรจะมี เพราะมันทำให้เกมเสียสมดุลพอสมควรเลย คนเล่นใหม่ๆถามหากันให้ควั่ก "เอามาจากไหนๆ อยากได้บ้าง" ตอบได้แค่ว่า "แกไม่มีทางได้แล้ว เพราะมันมีให้แปปเดียวในตอนนั้น" คนเล่นใหม่ๆก็...เงิบ

     4. ตัวละครเก่งแบบก้าวกระโดด คิดดูละกันครับ ตัวละคร 5 ดาวเหมือนกัน แต่ 5 ดาวตัวใหม่ เก่งชนิดที่ว่า 5 ดาวตัวเก่า เหมือน 3-4 ดาวลงไปเลย ระดับมันต่างกันเกินไปจริงๆ และที่สำคัญคือ ทำตัวละครใหม่ๆออกมาเพื่อโหมด PVP เท่านั้นจริงๆ 
เพราะตัวละครใหม่ๆที่ออกมา เอาไปใช้เล่นผ่านด่านไม่ได้เลย ไร้ประโยชน์สุดๆ กากสนิทเลย (ยกเว้นบางตัว ก็พอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่เคยสุ่มได้บ้างมั้ยล่ะ)

     5. ตัวด่านที่ยากขึ้นแบบโอเวอร์ เพื่อให้หนีพ้นตัวละครใหม่ๆที่ออกมานั้นแหละ ทำให้คนที่มีตัวละครเก่าที่เก่งๆ เล่นยากมากขึ้น มันยากโอเวอร์ซะจน ตัวละคร 5 ดาวไร้ประโยชน์ ต้องหันไปใช้ 1 ดาววิ่งๆ แล้วตีไกลแทน และอีกอย่างที่สำคัญคือ การบังคับให้ใช้ ไอเทมพิเศษ 
ตรงนี้แหละครับ คืออีก 1 อย่าง ที่ทำให้ผมหมดความหลงใหลลง เพราะไอเทมพิเศษ มันควรจะเอาไว้ใช้ตอนที่ พิเศษๆ หรือด่านแดงๆ ไม่ใช่ว่าใช้มันแม่งทุกด่านเลย แล้วมันจะพิเศษตรงไหน แถมดูโกงๆศัตรูอีกต่างหาก ที่ใช้ไอเทมได้

อาจจะมีอีกหลายๆข้อนะครับ ที่ผู้เล่นแต่ละคนต่างก็เจอปัญหากัน อันนี้ผมเขียนในมุมมองของผมเท่านั้น

สรุปรวมๆเลยว่า ตัวเกม เสียสมดุลไปแล้วล่ะครับ คนทำเกมพลาดอย่างมากครับ

สุดท้ายนี้ คนที่เล่นเก่ง เล่นผ่าน มีความสามารถ ผมก็ขอชื่นชมนะครับ คุณเก่งกว่าผมจริงๆ 
ผมอาจจะเล่นตามคำแนะนำของคนที่เล่นผ่านก็ได้ เพื่อให้เล่นผ่านด้านนั้นๆไป
แต่ผมเลือกที่จะ "เลิกเล่น" ครับ เพราะเสน่ห์ที่ผมหลงใหลเมื่อตอนเริ่มเล่น มันหายไปหมดแล้ว
เลเวลของเราแทบจะไม่จำเป็น ตัวละครเก่งๆ ก็แทบจะไม่จำเป็นในการผ่านด่านเช่นกัน
ทุกอย่างอยู่ที่ "วิธีเล่นแบบ .. วิ่ง-ชน-ยัน-ตาย ตัวหลังยิงไกล ตูมๆๆ ไอเทมมีอะไร ประเคนไปให้หมด" แทบจะอย่างเดียวเลย ซึ่งมันไม่ได้มีเสน่ห์มากพอที่จะให้ผมเล่นต่อไปแล้ว

ลาก่อน แซลลี่ กลายเป็นไก่ปิ้งไปซะเถอะ (แต่ดูกี่ทีก็เห็นเป็น เป็ด จริงๆนะ)

ตอนที่ 65 (บทความ) _ ทาสรักอสูร


ทาสรักอสูร

     นานๆครั้ง ที่ผมจะยอมควักเงินเพื่อไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ หรือไปดูภาพยนตร์ที่โรงหนัง (จะเขียนวกไปวนมาทำไมเนอะ) เพราะ ผมไม่ค่อยจะมีงบเอาไว้เที่ยวเล่นสักเท่าไหร่ (ดูหนังก็ถือว่าเที่ยวเล่นนะ) อีกอย่างค่าตั๋วหนังเดี๋ยวนี้ก็ 150 บาทขึ้นไปแล้วล่ะมั้ง (ไม่ได้ดูหนังนาน เลยไม่รู้ราคาจริงๆ)

     ครั้งนี้ที่ผมยอมควักเงินเพื่อไปดูหนังเรื่อง ทาสรักอสูร ก็เพราะว่า เป็นหนังไทย ที่น่าจะพาหัวเราะ คลายเครียดได้พอสมควร แล้วก็ตามคาดครับ ตัวหนังทำให้หายเครียดได้ดีทีเดียว ผมจะชอบหนังไทยมากกว่าหนังเทศ อาจจะเพราะนิยมของไทย อยากส่งเสริมหนังไทยก็เป็นได้

     มาพูดถึงตัวหนัง ทาสรักอสูร กันดีกว่าครับ ต้องบอกว่าคำพูดที่ใช้ในหนังเรื่องนี้ ตรงตามชีวิตจริงมากๆ ถึงมากที่สุด (เอ๊ะ หรือว่าเกินชีวิตจริง) มึง กู ไอ้สัตว์ ไอ้เหี้ย ฯลฯ คำพูดเหล่านี้ล้วนเป็นคำหยาบที่ น้าหม่ำ กล้าใช้ในหนังเรื่องนี้มากๆ แต่ถ้าจะให้พูดถึงความจริง ความเหมาะสมของเนื้อหาหนังแล้ว มันก็น่าจะใช้ล่ะครับ เพราะคงไม่มีใครที่ไหน ที่โดนจับมากักขังไว้ในที่แห่งหนึ่ง แล้วจะพูดสุภาพ "คุณคะ คุณจับฉันมาทำไม ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ นะ นะ" นั่นเป็นบทละคร หรือชีวิตจริงๆ...ดูสวยหรูทีเดียว แต่หนังเรื่้องนี้...

     "มึง ไอ้เหี้ย มึงจับกูมาทำไมวะ ปล่อยกูนะไอ้สัตว์ ไอ้เห็บหมา ฯลฯ" นี่แหละครับ คำพูดของหนังเรื่องนี้ แต่มันก็สมควรพูดแบบนี้รึเปล่าล่ะครับ เพราะโดนจับมากักขัง จะให้พูดดีๆ สุภาพๆ มันก็คงไม่ใช่หรอก มันต้องแบบนี้แหละ ชีวิตจริงแน่นอน (แต่จริงๆมันก็เวอร์นะ ถ้าพูดแบบนี้จริงๆ คงได้ตายด่วนแน่ๆ)

     ฉากโอเวอร์ๆ กวนๆ กวนอวัยวะเบื้องล่างก็มีเยอะพอสมควร ฉากสโลโมชั่นตีกันก็มี ดูแล้วก็ขำๆดีครับ แก้เครียดได้ ฉากซึ้งก็มีนะครับ เรียกน้ำตาให้ซึมๆ เพราะความซึ้งได้เหมือนกัน

     เพลงประกอบ ดนตรีประกอบก็ดีครับ ผมชอบมากเลยทีเดียว บางจังหวะของหนังดนตรีประกอบส่งให้ฉากนั้นยิ่งใหญ่ หรือเรียกน้ำตาได้เลยก็มี

     โดยรวมของหนังแล้ว ผมให้คะแนน 8/10 ครับ (ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ) อาจจะเพราะ ผมชอบหนังไทยที่ไม่เครียดด้วยก็ได้ เลยให้คะแนนเยอะหน่อย แต่คนอื่นๆเค้าคงให้คะแนนน้อยกว่านี่แน่ๆ

     ก็ไม่ขอพูดถึงให้มากกว่านี้แล้วนะครับ ใครที่ยังไม่ได้ดู ผมแนะนำว่า ถ้าไม่ชอบความเถื่อน หยาบ อย่าไปดูเลยครับ แต่ถ้าใครรับได้ เอาไว้ดูแก้เครียด ก็ไปดูนะครับ อาจจะได้คำหยาบคำใหม่ๆ กลับออกมาก็ได้นะครับ

ตอนที่ 64 (บทความ) _ ฟุตบอลโลก


ฟุตบอลโลก

     จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล แชมป์โลกตกเป็นของ "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน ด้วยการเอาชนะ "ฟ้าขาว" อาร์เจนติน่า ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 จากประตูชัยของ มาริโอ เกิทเซ ในนาทีที่ 113

     เยอรมัน สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นทีมชาติจากยุโรปชาติแรก ที่สามารถบุกไปคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในทวีปแอฟริกาใต้ได้ และเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 4 ด้วย พวกเขาฉายแววแชมป์ตั้งแต่นัดแรกของรอบแรก ด้วยการไล่ถลุงโปรตุเกสที่มี คริสเตียโน โรนัลโด กระจายถึง 4-0 ซึ่งมันเป็นผลการแข่งขันที่เหลือเชื่อมาก และสุดท้ายพวกเขาก็คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้สำเร็จในปั้นปลาย

     อาร์เจนติน่า ยังคงหยุดสถิติแชมป์ฟุตบอลโลกไว้ที่ 2 สมัยเท่าเดิม พวกเขามีโอกาสแล้ว ที่จะเพิ่มสถิติ เพียงแต่ว่า เมสซี่คนเดียว ไม่อาจจะช่วยทีมไหว เมสซี่ เป็นนักเตะเบอร์ 1 ของโลก ประสบความสำเร็จในระดับสโมสรมากมาย แต่กับทีมชาติแล้ว ยังคงเป็นคำถามต่อไปว่า แล้วเมื่อไหร่สมาชิกในทีม จะช่วยเมสซี่ได้มากพอ มากพอจนเมสซี่พาอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้สำเร็จ หรือมันอาจจะไม่มีอีกแล้ว เพราะเมสซี่ก็ใกล้จะเลยจุดสูงสุดแล้ว อีก 4 ปีข้างหน้าเมสซี่อาจจะไม่ใช่กำลังหลักของทีมแล้วก็เป็นได้

     ฮอลแลนด์ ยังคงเป็นทีมที่เก่งในฉายา "ราชาไร้บัลลังก์" ต่อไป เมื่อพวกเขาก็ยังไม่สามารถก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้สักที พวกเขาฉายแววแชมป์ยิ่งกว่าเยอรมันซะอีก ด้วยการเปิดนัดแรกไล่ถลุงแชมป์เก่าอย่างสเปนเละเทะไปถึง 5-1 ตามด้วยชัยชนะอีก 2 นัด เก็บ 9 แต้มเต็ม ซึ่งผลงานเหนือกว่าเยอรมันซะอีก แต่ด้วยเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำให้พวกเขาก็ยังไปไม่ถึงฝั่งอีกเช่นเคย

     บราซิล เจ้าภาพฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 แต่ด้วยผลงานที่ไม่ค่อยเข้าตาสักเท่าไหร่นัก ทำให้หลายๆคนอดเป็นห่วงไม่ได้ ยังดีที่มี เนย์มาร์ เป็นคนช่วยทีมสร้างสรรค์เกม และจบสกอร์ ทำให้บราซิลผ่านเข้ารอบมาได้เรื่้อยๆ จนเมื่อวันหนึ่ง เนย์มาร์ บาดเจ็บ และติอาโก ซิลวา กองหลังกัปตันทีมติดโทษแบน ในวันนั้นเอง บราซิลก็กลายเป็นเด็กน้อย โดนเยอรมันไล่ถลุงเละเทะ 7-1 ทันที และในนัดชิงที่ 3 การขาดหายไปของเนย์มาร์ก็ยังคงส่งผลร้ายแรงอยู่ เมื่อโดนฮอลแลนด์สอยเละอีก 3-0 สองนัดโดนไป 10 ลูก ยิงได้ 1 ลูก ทำให้รู้ว่า เนย์มาร์ คือหัวใจของบราซิลจริงๆ

     คอสตาริก้า ขอพูดถึงสั้นๆว่า พวกนายเอาใจเราไปเลย เพราะพวกนาย คือ ม้ามืดที่เล่นได้ทีระเบียบมาก ถ้ามีดวงอีกสักนิด อาจจะเอาชนะฮอลแลนด์ได้ด้วยซ้ำไป หวังว่าอีก 4 ปีข้างหน้า พวกนายจะผ่านรอบคัดเลือกเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้อีกนะ

     ปิดท้ายที่รางวัลต่างๆ
     รางวัลโกลเดน โกลฟ หรือ ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม : มานูเอล นอยเออร์ (เยอรมัน)
     รางวัลโกลเดน บอล หรือ นักเตะยอดเยี่ยม : ลีโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า)
     รางวัลโกลเดน ชู หรือ ดาวซัลโวสูงสุดประจำฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย : ฮาเมส โรดริเกซ (โคลัมเบีย) 6 ประตู
     รางวัล ฮุนได ยัง เพลเยอร์ หรือ ดาวรุ่งยอดเยี่ยม : ปอล ป็อกบา (ฝรั่งเศส)
     ฟีฟ่า แฟร์เพลย์ : โคลัมเบีย

     เจอกันใหม่ฟุตบอลโลก 2018 ที่ รัสเซีย เป็นเจ้าภาพครับ

ตอนที่ 63 (เรื่องสั้น) _ ณ จุดๆนี้


ณ จุดๆนี้

     "ครืน ครืน ซ่า ซ่า..." เสียงคลื่นน้ำทะเลซัดสาดเข้าฝั่งตรงที่ผมยืนอยู่ นอกจากคลื่นน้ำทะเลที่แรงแล้ว ก็ยังมีลมที่พัดแรงอีกด้วย อากาศดีจริงๆ ถึงแม้จะเย็นจนเกือบหนาวไปสักหน่อยก็เถอะ

     ผมยืนอยู่ตรงระเบียงของบ้านพักชายทะเลแห่งหนึ่ง ผมมาเที่ยวทะเลครับ มาเช่าบ้านพักแห่งหนึ่งอยู่กับหญิงสาวอีกคนหนึ่ง เรามากันสองคน เพราะเธอรบเร้าอยากจะมาเที่ยวทะเลให้ได้ ผมก็เลยตัดสินใจพอเธอมาจนได้ เพราะกลัวว่าถ้าขัดใจเธอมากเกินไป ผมก็อาจจะเสียเธอไปก็ได้

     ณ ตอนนี้เวลาตีสี่กว่าๆ ผมตกใจตื่นขึ้นมาก่อนเธอ ผมเห็นเธอนอนหลับสนิท ดูมีความสุขมาก ผมก็ดีใจแล้วที่ได้ทำเพื่อเธอคนนี้ คนที่ผมรักมากที่สุดในตอนนี้ ผมลุกจากที่นอนมาเข้าห้องน้ำ แล้วแวะออกมาที่ระเบียงบ้านพักเพื่อรับอากาศดีๆสักหน่อย ก่อนที่จะกลับเข้าไปนอนต่อ

     "อืม อากาศดีจริงๆ สดชื่นมาก ตาสว่างซะละ กลับไปนอนต่อมันจะหลับรึเปล่าล่ะเนี่ย" ผมบ่นกับตัวเองคนเดียวที่ระเบียงของบ้านพัก ที่ยื่นออกมาในทะเลพอสมควร จนเหมือนกับว่าผมยืนอยู่บนเรือที่จอดเทียบฝั่งอยู่

     ผมยืนอยู่ตรงระเบียงได้สักพัก ก็ตัดสินใจกลับเข้าบ้านพักไปนอนต่อ แต่ก่อนที่ผมจะกลับเข้าไปในบ้านพัก หางตาของผมเหมือนจะเห็นอะไรแวบๆ เหมือนมีคนยืนอยู่ที่ระเบียงบ้านพักหลังข้างๆ ซึ่งระเบียงมีความห่างกันไม่ถึงหนึ่งเมตร ผมตกใจแต่ก็ทำใจกล้า หันไปมองให้เต็มตา

     "โอ้ว แม่เจ้า น่ารักอะไรขนาดนี้ แต่ว่าตีสี่กว่าๆ คนหรือผีล่ะนั่น" สิ่งที่ผมเห็นหลังจากที่หันไปมองให้เต็มตาก็คือ หญิงสาวคนหนึ่งในชุดนอนเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เธอตัวเล็กๆ ผมสั้นเหมือนเด็กมัธยม เธอดูน่ารักมาก แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าเธอคือ คนหรือผี เพราะมันยังไม่เช้าเลย แค่ตีสี่กว่าๆเอง ผมตัดสินใจลองยืนตัวตรง แล้วโบกมือให้เธอ ดูว่าเธอจะหันมารึเปลา

     "ทำอะไรคะ ออกกำลังกายเหรอ" หลังจากที่ผมยืนโบกมืออยู่สักพัก เธอก็คงรู้สึกเหมือนมีอะไรแวบๆที่หางตา เหมือนที่ผมรู้สึกเมื่อครู่นี้ แล้วเธอก็หันมามองผมแบบ งงๆ ก่อนที่จะถามว่าผมทำอะไรอยู่

     "อ่อ เออ คือ...ลองโบกมือให้คุณนั่นแหละครับ" เธอถามผมว่า ผมทำอะไรอยู่ แต่บังเอิญว่าผมลืมคิดคำตอบไว้ล่วงหน้า ว่าถ้าเธอเป็นคน แล้วหันมาถามผมแบบนี้ ผมจะตอบยังไงดี และด้วยความตกใจ บวกกับความน่ารักของเธอ ทำให้ผมคิดอะไรไม่ออก คิดอะไรไม่ทัน บอกความจริงออกไปซะเลย

     "โบกมือทักฉันเหรอ ทำไมคะ มีอะไรรึเปล่า" เธอเดินเข้ามาชิดระเบียงบ้านพักของเธอ ซึ่งอยู่ใกล้กับระเบียงบ้านพักของผม ทำให้ผมเห็นเธอชัดเจนยิ่งขึ้น เธอเป็นคนแน่นอน แถมยังน่ารักมากๆซะด้วย

     "พอดีผมไม่แน่ใจ ว่าคุณเป็นคนหรือผีน่ะครับ เพราะตอนนี้พึ่งจะตีสี่กว่าๆเอง ก็เลยลองทักดู ถ้าเป็นผีจะได้รีบวิ่งเข้าบ้าน ล็อคประตู มุดที่นอน สวดมนต์น่ะครับ แต่ถ้าเป็นคนก็จะได้สบายใจหน่อย" ผมพูดไปยิ้มไป แก้เขินที่คิดว่าเธอเป็นผี

     "ผีอะไรจะน่ารักขนาดนี้ล่ะคะ" เธอพูดจบ เธอก็ยิ้ม หัวเราะ จนความน่ารักของเธอโดนใจผมเข้าอย่างจัง

     "นั่นสินะครับ ถ้าจะน่ารักขนาดนี้ ถึงจะเป็นผี ผมก็คงยอมหลงรักผีล่ะครับ" ผมเองก็คารมดีไม่น้อย เลยพูดแซวเธอกลับไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นความเงียบเข้าปกคลุมซะอย่างงั้น

     "จะยอมหลงรักผีแบบฉันจริงๆเหรอคะ" ในความเงียบที่เกิดขึ้น อยู่ๆน้ำเสียงของเธอก็เปลี่ยนไป การพูดก็พูดลากเสียงยาวขึ้นเหมือนผี ทำเอาผมหน้าถอดสี ยืนตัวแข็งไปชั่วขณะ

     "ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่ะค่ะ ฉันเป็นคนค่ะ ไม่ใช่ผี บอกแล้วไงว่าผีที่ไหนจะน่ารักได้ขนาดนี้ล่ะคะ" เธอหัวเราะออกมาแบบสนุกสนานมากทีเดียว ที่หลอกผมให้ตกใจกลัวได้ ผมหายจากอาการตกใจแล้ว ก็ได้พบเจอกับความสดใสของเธอ ผมอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้ซะแล้วสิ

     "เล่นซะตกใจ เกือบใส่เกียร์หมาแล้วนะครับนั่น" ผมบอกกับเธอ เธอยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งผม

     "มาเที่ยวกับใครเหรอครับ" ในเมื่อผมอยากรู้จักเธอให้มากขึ้น ผมก็ต้องชวนเธอคุย

     "มาคนเดียวค่ะ" เธอตอบผมด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จากที่กำลังร่างเริง กลายเป็นเครียดในทันที

     "อ้าว เหรอครับ มีอะไรรึเปล่าครับ สีหน้าดูไม่ค่อยดีเลย แล้วมาคนเดียวแบบนี้ ไม่กลัวเหรอครับ" ผมสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไป เลยถามด้วยความเป็นห่วง

     "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่เหนื่อยกับงานแค่นั้นเองค่ะ ได้พักผ่อนเที่ยวทะเล เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ" เธอมีสีหน้าที่ดีขึ้น เธอยิ้มได้อีกครั้ง ทำเอาผมค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย

     "แล้วคุณล่ะค่ะ มาเที่ยวกับใคร กับแฟนล่ะสิ ใช่รึเปล่าคะ หน้าตาหล่อๆแบบนี้ ความโสดไม่น่าจะอยู่กับคุณได้นานหรอก" ดูเธอช่างพูด ช่างเจรจาซะจริงๆ ทำเอาผมยิ่งอยากรู้จักเธอให้มากขึ้นไปอีก

     "คุณทายผิดครับ ผมยังโสด แล้วก็มาเที่ยวคนเดียวนะครับ" ผมตอบเธอด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ สายตาของผมจ้องไปที่ตาของเธอ จนเธอต้องหลบตา

     "คุณล่ะครับ มีแฟนแล้วใช่รึเปล่า เพราะน่ารักๆแบบนี้ ความโสดก็ไม่น่าจะอยู่กับคุณได้นานหรอกจริงรึเปล่าครับ เอ...แล้วทำไมแฟนไม่มาด้วยล่ะครับ" ในเมื่อเธอช่างพูด ช่างเจรจา ผมก็ต้องตามเธอให้ทัน ด้วยคำพูดที่คล้ายๆกัน

     "เออ...ฉันยังโสดค่ะ ยังไม่มีแฟน" เธอมีท่าทางเขินอย่างชัดเจน พูดไม่มองหน้าผมเหมือนตอนแรกๆ ทำให้ผมรู้ได้เลยว่า ผมเปิดเกมรุกใส่เธอ เพื่อจีบเธอได้เลย

     ผมหันไปมองในบ้านพัก หญิงสาวที่มากับผมยังคงนอนหลับสนิท จากความเพลีย จากกิจกรรมเมื่อวานนี้ แล้วผมก็หันมาคุยหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าของผมต่อ

     "ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าน่ารักขนาดนี้ จะยังโสดอยู่อีก" ผมแซวเธอ

     "ทีคุณล่ะคะ หล่อขนาดนี้ ก็ยังโสดอยู่เหมือนกันไม่ใช่เหรอ เอ๊ะ หรือคุณเป็นเกย์" เธอทำท่าทางตกใจ

     "ลองดูมั้ยล่ะครับ ถ้าผมเป็นเกย์ ผมอยู่กับคุณสองต่อสอง ผมต้องไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ลองมั้ยครับ" ผมพูดลองเชิงเธอดู

     "บ้าไปแล้ว แต่ก็น่าสนนะคะ ปะ ไปลองดูกันเลย ฮ่าๆๆ" อาการเขินของเธอหายไปหมดสิ้น กลายเป็นความร่าเริงเหมือนตอนแรกที่เจอกันแล้ว

     "คุณชื่ออะไรคะ" เธอถามชื่อผม ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ นี่เธอคิดอะไรอยู่กันนะ

     "ผมชื่อ จัสติน ครับ" ด้วยสีหน้าของเธอที่ดูเจ้าเล่ห์จนเกินไป ผมเลยโกหกบอกชื่ออื่นแทนชื่อจริงๆของผม

     "ห๊า คนอะไรชื่อ จ๊ากตีน ชื่อพิลึกจริงๆเลย ใครตั้งให้คะเนี่ย" เธอทำหน้าตลกใส่ผม นี่สินะคือเหตุผลที่เธอทำหน้าเจ้าเล่ห์ตอนถามชื่อของผม

     "ใครตั้งให้ก็ช่างเถอะครับ แล้วคุณล่ะครับ ชื่ออะไร" ผมทำหน้าเจ้าเล่ห์ ถามชื่อของเธอกลับไปบ้าง ดูเธอเองก็คงจะรู้ตัว ว่าผมอาจจะรอแกล้งล้อชื่อของเธออยู่

     "ฉันชื่อ นางฟ้า ค่ะ" จากคำตอบของเธอ ผมรู้ได้เลยว่า เธอก็ตั้งใจโกหกชื่อของตัวเองเหมือนกัน แต่ด้วยความเจ้าเล่ห์ของผม ไม่ว่าเธอจะตอบมาว่าเธอชื่ออะไร ก็หลบไม่พ้นการแกล้งของผมหรอก

     "อ่อ ชื่อ ที่รัก นี่เอง ชื่อเพราะดีจริงๆ เหมาะกับคนน่ารักๆแบบคุณจริงๆเลยที่รัก" ผมพูดจบ เธอทำหน้าอึ้งๆ อ้าปากค้าง

     "กล้าเล่นเนอะมุขนี้น่ะ" เธอทำหน้าตาแบบที่ผมก็อธิบายไม่ถูก ว่าเธอรู้สึกยังไงกันแน่ แต่ผมรู้สึกได้อยู่อย่างหนึ่งคือ เธอมีเสน่ห์ เธอน่ารัก เธอเข้าไปนั่งในใจผมซะแล้ว

     ผมกับเธอยืนคุยกันที่ระเบียงนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เพราะผมกับเธอคุยกันถูกคอ แกล้งกันไปก็แกล้งกันมา จนกว่าจะรู้ตัวว่าเข้าไปนอนตอนนี้ ก็ไม่ทันซะแล้ว ก็ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นนั่นแหละครับ ความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้น สายลมที่แผ่วเบากระทบกาย กลิ่นอายของน้ำทะเลที่กระทบฝั่ง บรรยากาศทุกอย่างช่างดี และเป็นใจเหลือเกิน ผมกับเธอมองสบตากัน ต่างคนต่างยิ้มให้กัน แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรออกไป หญิงสาวที่มากับผมก็ออกมาหาผมที่ระเบียงซะก่อน

     "พ่อคะ ทำไมพ่อไม่ปลุกหนูมาดูพระอาทิตย์ตก เอ้ย ขึ้นล่ะคะ พ่อลืมสัญญาเหรอคะ ดีนะที่หนูตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ไม่งั้นอดดูแน่ๆเลย" ลูกสาววัย 13 ปี ออกมาหาผมที่ระเบียงเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งผมลืมไปซะสนิทเลยว่า จะต้องปลุกเธอขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน ผมมัวแต่คิดถึงอดีตอันแสนหวาน และมีความสุขอยู่

     "พ่อลืมลูก พ่อขอโทษ เดี๋ยววันนี้พ่อไถ่โทษด้วยการให้ลงเล่นน้ำทะเลเพิ่มอีก 30 นาทีนะ ไม่โกรธพ่อนะคะ" ผมเสนอข้อต่อรองให้ลูกสาววัยกำลังโตของผม

     "ก็ได้ค่ะ" เธอเข้ามากอดแขนผม เราสองคน ไม่สิ เราสามคนต่างหาก พ่อแม่ลูกสามคน ยืนดูพระอาทิตย์ขึ้นกันอยู่อย่างมีความสุข

     "พ่อร้องไห้ทำไมคะ" ลูกสาวเห็นผมน้ำตาไหลออกมา ทั้งๆที่ยังยิ้มอยู่

     "เปล่าจ๊ะ ลมมันเข้าตาน่ะลูก พ่อลืมตานานไปหน่อย แสบตา น้ำตาเลยไหลน่ะ ปะ ไปล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำได้แล้วค่ะ เดี๋ยวเราจะได้ออกไปหาอะไรกินกัน" ผมบอกลูกสาวให้ไปจัดการภารกิจส่วนตัวซะให้เรียบร้อย

     "ผมคิดถึงคุณ ที่รัก" ผมร้องไห้ออกมาแบบไม่อายใคร เพราะความคิดถึงที่มันยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ผมมายืนอยู่ ณ จุดๆนี้ จุดๆเดิมที่เป็นจุดเริ่มต้นระหว่าง ผมกับภรรยาสุดที่รัก ที่นี่มีความทรงจำอันแสนสุข ผมกับเธอเริ่มรู้จักกันที่นี่ เราคบกัน 3 ปีก็แต่งงาน หลังจากนั้นไม่นานเราก็มีลูกด้วยกัน ซึ่งก็คือลูกสาวคนนี้ ก่อนที่อุบัติเหตุทางรถยนต์ จะพรากเธอไปจากผมและลูกสาว เพียงเพราะผมขัดใจเธอ ไม่พาเธอมาเที่ยวทะเล เธอเลยขับรถออกจากบ้านด้วยความโมโห ก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุในที่สุด จากวันนั้นวันที่ผมเจอกับเธอที่นี่ จนมาถึงวันนี้ ก็ 17 ปีเข้าไปแล้วสินะ ผมยังจำได้ดีถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ณ ที่แห่งนี้

     "ผมรักคุณ ผมคิดถึงคุณนะ" ผมพูดทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาแบบหยุดไม่ได้ ผมกำมือแน่นโมโหตัวเองที่เป็นต้นเหตุทำให้สูญเสียเธอไป ผมแหงนมองฟ้า ภาพของภรรยาสุดที่รักปรากฏขึ้น เธอยิ้มให้ผมเหมือนจะบอกว่า ไม่เป็นไร เธอไม่โทษผม ผมได้แต่ยิ้มตอบเธอไป

     "พ่อคะ น้ำไม่ไหลค่ะ" ลูกสาวตะโกนออกมาจากห้องน้ำ


     "โถ่...ลูก พ่อกำลังซึ้งเลย" ผมยิ้มให้เธออีกครั้ง ก่อนจะวิ่งเข้าไปดูแลลูกสาวของเราสองคนทันที