ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 137 (เรื่องสั้น) _ จะออกไปเด็ดดอกฟ้า แต่เหมือนว่าโชคชะตาไม่เข้าใจ

จะออกไปเด็ดดอกฟ้า แต่เหมือนว่าโชคชะตาไม่เข้าใจ
26 มีนาคม 2561

       "มึงเอาจริงดิ" ผมถามเพื่อนของผมเพื่อความแน่ใจ จะได้ไม่เข้าใจผิด

       "เออ กูเอาจริงๆ กูชอบจริงๆนะเว้ย กูรู้สึกมีความสุขเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆเธอ" เพื่อนของผมยืนยันหนักแน่น ว่ามันจริงจังกับผู้หญิงคนนี้

       "โอเค ถ้ามึงยืนยันขนาดนี้ งั้นกูหลีกทางให้มึงก็ได้" ไอ้คนที่จริงจังขนาดนั้น มันก็เพื่อนผมนี่แหละ งั้นก็ใจๆกันไปเลย ผมยอมหลีกทางให้มันจีบน้องรินคนสวยที่ทั้งผม และเพื่อนของผม แอบมอง แอบสนใจมาสักระยะหนึ่งแล้ว

       "มันต้องแบบนี้สิวะเพื่อน" มันดีใจใหญ่เลย ยกนิ้วโป้งให้ผมเลยทีเดียว

       "สวัสดีค่ะ มาสมัครงานค่ะ" หญิงสาวคนหนึ่งกล่าวทักทายประชาสัมพันธ์สาว ที่กำลังนั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ที่โต๊ะประชาสัมพันธ์

       "ตำแหน่งอะไรคะ" ประชาสัมพันธ์สาวละสายตาจากโทรศัพท์ แล้วแหงนหน้าถามหญิงสาวที่มาขอสมัครงาน

       "ประชาสัมพันธ์ค่ะ" หญิงสาวผู้มาสมัครงานตอบด้วยรอยยิ้ม

       "งั้นเชิญกรอกใบสมัครงานทางห้องขวามือนะคะ" ประชาสัมพันธ์สาวบอกกับหญิงสาว พร้อมกับชี้มือไปทางห้องทางขวา ซึ่งเป็นห้องสำหรับคนมาสมัครงาน

       หญิงสาวเข้าไปในห้องสมัครงาน ซึ่งในห้องนั้นก็มีผู้ชาย 2 คนมานั่งกรอกใบสมัครงานอยู่ ทั้ง 2 คนมองเธอแล้วยิ้ม เธอยิ้มตอบแบบเขินๆ แล้วเธอก็ได้หาที่นั่งกรอกใบสมัครงานจนเสร็จ ในห้องมีกระดาษ A4 เขียนช้อความว่า "กรอกใบสมัครงานเสร็จแล้ว ส่งที่ประชาสัมพันธ์ค่ะ" เธออ่านแล้วก็ออกจากห้องสมัครงานไปที่ประชาสัมพันธ์

       "พี่คะ ส่งใบสมัครงานค่ะ" ประชาสัมพันธ์สาวละสายตาจากโทรศัพท์อีกครั้ง แล้วกันมาสนใจหญิงสาว กับใบสมัครงาน

       ประชาสัมพันธ์สาวอ่านข้อมูลในใบสมัครงานคร่าวๆ เพื่อพิจารณาเบื้องต้นว่าควรให้ฝ่ายบุคคลสัมภาษณ์งานหรือไม่ หลังจากอ่านจบแล้วประชาสัมพันธ์สาวก็ถามหญิงสาวว่า "สะดวกสัมภาษณ์งานวันนี้หรือไม่คะ"

       "สะดวกค่ะ" หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้ม และความตื่นเต้น เพราะไม่คิดว่ากรอกใบสมัครเสร็จแล้ว จะได้สัมภาษณ์งานเลย

       "งั้นเดี๋ยวเชิญนั่งรอที่ห้องสมัครงานก่อนนะคะ" ประชาสัมพันธ์สาวเก็บใบสมัครงานไว้ เพื่อส่งให้ฝ่ายบุคคล พร้อมกับบอกให้หญิงสาวไปนั่งรอที่ห้องสมัครงานอีกครั้ง

       "เฮ้ยๆ ไอ้โป้ง มึงดูนั่นๆ" ผมสะกิดไอ้โป้ง เพื่อนสนิทในที่ทำงานให้มันดูหญิงสาวคนหนึ่งในห้องสมัครงาน

       "ดูเหี้ยไรวะ" ไอ้โป้งสงสัย พร้อมกับหันไปมองที่ในห้องสมัครงาน "เหี้ย เอ้ย ไม่ใช่เหี้ยสิ นั่นมันนางฟ้าชัดๆ" ไอ้โป้งถึงกับตะลึง เมื่อได้เห็นหญิงสาวในห้องสมัครงาน

       ก็จะไม่ให้มันตะลึงได้ยังไงล่ะครับ เพราะหญิงสาวคนนั้นมีเสน่ห์มาก หน้าตาสะสวย ดูใสๆ ผมสั้นประบ่า แม้จะผิวไม่ขาวจนโอโม่ แต่ก็ถือว่าน่ามอง แต่งตัวเรียบร้อยแต่ก็ยังดูเซ็กซี่ได้ คือรวมๆแล้วมีเสน่ห์มากมาย น่ามอง น่าค้นหานั่นแหละครับ

       "พวกมึง...ทำอะไรกัน" ระหว่างที่ผมกับไอ้โป้งกำลังดูสาวเพลินๆอยู่นั้น ก็มีเสียงปริศนาแทรกเข้ามาระหว่างผมกับไอ้โป้ง ไอ้โป้งหันไปดูแล้วตะโกนเสียงดัง "เหี้ย!!!"

       สิ้นเสียงของไอ้โป้ง ตัวไอ้โป้งก็ถลาออกไปล้มกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยแรงถีบของประชาสัมพันธ์สาว "เหี้ย พ่อมึงดิ กูอีจ๋าเพื่อนมึงนี่แหละ" พอจ๋าพูดจบ แทนที่บรรยากาศจะตึงเครียด มันกลับกลายเป็นเสียงหัวเราะของเราทั้ง 3 คนแทน และที่สำคัญคือ ผมสังเกตเห็นหญิงสาวที่อยู่ในห้องสมัครงาน ก็เหมือนจะแอบขำซะด้วย

       "วันนี้กินอะไรจ๋า" ผมถามจ๋าถึงข้าวมื้อเที่ยง เพราะตอนนี้จ๋าทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์อยู่คนเดียว อีกคนเพิ่งลาออกไป ทำให้จ๋าไม่สามารถออกไปกินข้าวเที่ยงกับผม และไอ้โป้งได้เหมือนทุกที

       "ผัดเผ็ดช้างไข่ดาวห้าฟอง" ยังไม่ทันที่จ๋าจะตอบว่ากินอะไร ไอ้โป้งก็ชิงสั่งข้าวเที่ยงแทนจ๋าซะแล้ว จ๋าหันไปมองหน้าไอ้โป้งแบบงงๆ "งงอะไรอีจ๋า แม่ง มึงถีบแรงอย่างกับช้างถีบ เห็นหุ่นนางแบบ หุ่นเพรียวๆแบบนี้ ไม่นึกเลยว่ามึงจะมีลูกถีบพลังช้างด้วย" ไอ้โป้งอธิบายจบ คราวนี้จ๋าง้างหมัดจะต่อยแทนการถีบแล้ว

       "พอดิๆ รีบๆสั่งข้าวได้แล้ว ช้าเดี๋ยวคนเยอะ" ไอ้โป้งไม่สู้จ๋าแล้ว เพราะยังไงจ๋ามันก็เพื่อนของพวกผมเหมือนกัน และไม่ว่าจะมีเรื่องกันทีไร จ๋ามันก็ชนะพวกผมทุกทีสิน่า

       "เอายำหมูยอมาให้กูละกัน ข้าวไม่ต้องนะ" จ๋าหันมาสั่งข้าวเที่ยงกับผม

       "โอเค จัดให้ ว่าแต่สาวในห้องสมัครงานนั่น..." ผมรับออเดอร์จากจ๋า แล้วก็หันไปมองหญิงสาวในห้องสมัครงาน พร้อมกับคำถาม

       "พวกมึงสองคนไปซื้อข้าวก่อน เดี๋ยวกลับมา กูจะเล่าให้ฟัง โอเค๊" เจ้าแม่จ๋าองค์ลงแล้ว ผมกับไอ้โป้งเลยต้องรีบออกไปซื้อข้าวเที่ยง ก่อนที่เจ้าแม่จ๋าจะพิโรธ

       "ในใบสมัครงานน้องเขียนไว้ว่าชื่อ ริน มาสมัครตำแหน่งเดียวกับกูนี่แหละ ถ้าใครคิดจะจีบน้องริน ต้องเซ่นเจ้าแม่เยอะหน่อยนะเว้ย ไม่งั้นเจ้าแม่จะตัดกำลัง ไม่ช่วยนะเว้ย" นี่คือ คำตอบของจ๋า หลังจากที่ผมกับไอ้โป้งซื้อข้าวเที่ยงมาให้มันแล้ว แล้วที่ถามถึงหญิงสาวในห้องสมัครงานอีกครั้ง

       "แต่ก่อนอื่นเลย ต้องให้น้องได้งานก่อน เราถึงจะมีโอกาสจีบน้องเขา" ผมพูดกับไอ้โป้ง เพราะกลัวว่าน้องจะไม่ผ่านการสัมภาษณ์

        "พวกมึงไม่ต้องห่วงหรอก กูยืนยันร้อยเปอร์เซ็น พี่ศรีรับน้องเข้าทำงานแน่นอน" จ๋ายืนยันหนักแน่น พร้อมยกนิ้วโป้งแสดงความมั่นใจสุดๆ

       "ทำไมวะ" ไอ้โป้งถามขึ้นด้วยความสงสัย

       "โปรไฟล์ และความสามารถของน้อง แม่ง...เด็ดดวงว่ะ" จ๋าตอบด้วยความมั่นใจอีกครั้งหนึ่ง จนผมกับไอ้โป้งหมดคำถาม และเชื่อว่าน้องจะผ่านการสัมภาษณ์แน่นอน

       "เฮ้ย ไอ้กร" ไอ้โป้งเรียกผม ขณะที่ผมกำลังทำงานอยู่ที่โต๊ะ ซึ่งโต๊ะทำงานของผม กับไอ้โป้งก็อยู่ตรงข้ามกันนี่แหละ ผมหันไปมองหน้ามันด้วยความสงสัย

       "กูว่า กูขอจีบน้องรินได้มั้ยวะ มึงหลีกทางให้กูเถอะนะ" ไอ้โป้งยิงคำถามซะผมอึ้งเลย

       "มึงเอาจริงดิ" ผมถามไอ้โป้งเพื่อความแน่ใจ จะได้ไม่เข้าใจผิด

       "เออ กูเอาจริงๆ กูชอบจริงๆนะเว้ย กูรู้สึกมีความสุขเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆน้องริน" ไอ้โป้งยืนยันหนักแน่น ว่ามันจริงจังกับน้องริน

       "โอเค ถ้ามึงยืนยันขนาดนี้ งั้นกูหลีกทางให้มึงก็ได้" ไอ้คนที่จริงจังขนาดนั้น มันก็เพื่อนผมนี่แหละ งั้นก็ใจๆกันไปเลย ผมยอมหลีกทางให้มันจีบน้องรินคนสวยที่ทั้งผมและมัน แอบมอง แอบสนใจมาสักระยะหนึ่งแล้ว

       "มันต้องแบบนี้สิวะเพื่อน" มันดีใจใหญ่เลย ยกนิ้วโป้งให้ผมเลยทีเดียว

       "ไหนๆกูก็จีบน้องรินละ มึงก็จีบอีจ๋าบ้างสิวะไอ้กร" ไอ้โป้งแนะนำให้ผมจีบจ๋า ทั้งๆที่มันเพิ่งแย่งน้องรินไปจากผม

       "ไม่เอาล่ะ" ผมปฏิเสธไป

       "ทำไมล่ะวะ อีจ๋ามันก็น้องๆนางแบบเลยนะเว้ย หน้าสวย หุ่นเป๊ะ นี่ถ้าให้มันไปประกวดเวทีนางแบบ มันน่าจะติดหนึ่งในสิบคนสุดท้ายเลยนะเว้ย" ไอ้โป้งยังคงพยายามทำให้ผมสนใจจีบจ๋าให้ได้

       "โอย ไอ้โป้ง มึงดีใจจนลืมอะไรปะเนี่ย มึงก็รู้นี่หว่าว่ากูกับมึงเนี่ย คิดกับอีจ๋าได้แค่เพื่อนจริงๆ ความรู้สึกมันเป็นแบบนั้น มันไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว จำได้มั้ยว่าเราสามคนเนี่ย ตอนเข้ามาทำงานที่นี่ใหม่ๆ เมื่อหกปีก่อน มันเป็นยังไง..." ผมรื้อฟื้นความหลังกับไอ้โป้ง เผื่อว่ามันจะลืมไปแล้วว่าเราสามคน ผม โป้ง และจ๋า มันเป็นยังไง เจออะไรมาบ้าง

       "ตอนนั้นเราสามคนเป็นเด็กใหม่ที่นี่ เข้ามาพร้อมกัน ก็เลยดูจะสนิทกัน กูกับมึงเคยคิดจะจีบอีจ๋า มึงจะได้ใช่มั้ย" ผมถามไอ้โป้ง มันพยักหน้าตอบ

       "แล้วยังไงล่ะ อีจ๋าชอบพี่แมนโน้น มันมองเราสองคนเป็นแค่เพื่อน ตั้งแต่นั้นมาเราสองคนก็เลยคิดกับมันได้แค่เพื่อน ยิ่งตอนที่มันเลิกกับพี่แมน ตอนนั้นอีจ๋าดูมันจะอ่อนแอมาก เราสองคนเลยคิดว่า นี่แหละโอกาสพิชิตใจอีจ๋า แล้วสุดท้ายเป็นไงล่ะ อีจ๋าเบรคหัวทิ่มเลย มึงจำได้มั้ยว่ามันพูดว่าอะไร" ผมเล่าย้อนอดีตยาว พร้อมกับจบด้วยคำถามที่ผมคิดว่า ไอ้โป้งน่าจะจำได้ดี

       "มึงสองคนคือ เพื่อนสนิทของกู กูจะไม่ยอมเป็นแฟนกับใครคนใดคนหนึ่ง เราสามคนจะอยู่กันแบบนี้ ไม่มีการที่สองคนได้เป็นคู่กัน แล้วทิ้งเพื่อนอีกคนไว้ข้างหลัง จำไว้!!! ถ้าจะมีแฟน ขอให้ไปจีบคนอื่น ที่ไม่ใช่กู" ไอ้โป้งพูดไปยิ้มไป ผมเชื่อว่ามันก็คงซึ้งในคำว่า"เพื่อน"ไม่น้อยไปกว่าผม

       "เออว่ะ กูลืมไป กูดีใจเกินไปหน่อย โทษทีว่ะ" ไอ้โป้งขอโทษผม ที่มันลืมคำพูดของจ๋าเมื่อวันนั้น

       "ว่าแต่ มึงจะจีบน้องรินยังไงวะ" ผมถามไอ้โป้ง เพราะไม่เคยเห็นมันจีบสาวคนไหนในบริษัทติดเลย มันกินแห้วมาแล้วประมาณ 4 รอบ

       "อืม กูว่านะ งานนี้ต้องให้เจ้าแม่เปลี่ยนร่างเป็นแม่สื่อแล้วล่ะ มันน่าจะช่วยได้เยอะเลยล่ะ" ไอ้โป้งทำท่าทางมีแผนการอยู่ในหัวแล้ว

       "เป็นไงบ้างน้องริน ทำงานมาสองเดือนแล้ว ไหวรึเปล่า พี่ว่าน่าจะผ่านโปรได้สบายๆนะเนี่ย" จ๋า ทักทายน้องรินในเช้าวันแรกของเดือนที่ 3

       "สบายมากค่ะพี่จ๋า งานไม่หนักอย่างที่คิด" น้องรินตอบกลับจ๋าด้วยความสดใสเช่นเคย

       "เก่งนะเราเนี้ย ทั้งการทำงาน ทั้งภาษา ไหนจะหน้าตาที่ดูดีจนพี่หมองแล้ว ยังจะเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆหลายคนเลยนะเนี่ย" จ๋าชื่นชมในตัวของน้องริน พร้อมกับแซวขำๆ

       "ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ รินยังต้องฝึกอีกเยอะเลย แล้วเรื่องหน้าตานี่ รินว่าพี่จ๋ายังกินขาดรินอยู่เลยนะคะ ไหนจะหุ่นที่เพรียวเหมือนนางแบบอีก ดูขาพี่จ๋าสิ นี่มันขานางแบบชัดๆ หน้าอก สะโพก โอยยยย รินยังห่างพี่จ๋าเยอะค่ะ" น้องรินตอบกลับพี่จ๋าแบบถ่อมตัว

        "ฮ่าๆๆ ก็ได้ๆ เรื่องหน้าตา เรื่องหุ่นพี่ชนะก็ได้ แต่เรื่องหนุ่มๆนี่ พี่ขอยอมแพ้นะ เพราะปกติตรงประชาสัมพันธ์นี่ ไม่ค่อยมีหนุ่มๆแวะเวียนมานะ แต่ตั้งแต่น้องรินเข้ามาที่นี่นะ โอ้โห หัวโต๊ะประชาสัมพันธ์ไม่แห้งเลย" จ๋าแซวน้องรินอีกครั้ง

       "พี่จ๋าก็เวอร์ไป๊ เขาอาจจะมาหาพี่จ๋าก็ได้นะคะ" น้องรินทำท่าทางเขินอายจนหน้าแดง

       "มาหารินนั่นแหละ สาวน้อยเสน่ห์แรงที่สุด ณ เวลานี้" จ๋าบอกกับน้องริน ก่อนที่จะมีคนมาติดต่อประชาสัมพันธ์พอดี

       "ขอบคุณค่ะพี่โป้ง แหม ซื้อขนมมาฝากแทบทุกวันเลย คิดอะไรกับรินรึเปล่าคะ" รินรับขนมจากไอ้โป้ง แล้วยิงคำถามแทงใจไอ้โป้งกลับมาทันที หลังจากที่ไอ้โป้งซื้อขนมมาฝากน้องรินแทบทุกวันเป็นเวลาร่วมเดือน จนรินเองก็อดสงสัยไม่ได้

       "โอย มันจะมีอะไรล่ะริน ผู้ชายซื้อขนมมาให้ผู้หญิงแทบทุกวันแบบนี้ มันก็หวังจะจีบรินนั่นแหละ" จ๋าพูดขึ้นหลังจากที่เคยเตี๊ยมกับไอ้โป้งไว้ก่อนแล้วว่า ถ้าน้องรินถามคำถามแบบนี้ ให้จ๋าช่วยปูทางให้หน่อย เพื่อที่มันจะได้เอ่ยปากขอจีบน้องรินได้อย่างเป็นทางการ

       น้องรินทำท่าทางอึ้งเล็กน้อย บวกกับความกังวลใจ และเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง "แต่..."

       "ทำอะไรกันจ๊ะสองสาว" มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งโผล่แทรกเข้ามา ทุกคนหันไปมอง

       "พี่หมู!!!" ผม ไอ้โป้ง และจ๋า พูดชื่อพี่หมูพร้อมกันด้วยความตกใจ

       "อย่าบอกนะว่า..." จ๋าพูดขึ้นลอยๆ พร้อมกับมองไปที่น้องริน ผมกับไอ้โป้งก็ค่อยๆมองไปที่น้องรินด้วยเช่นกัน

       "ห๊ะ?" น้องรินทำหน้า งง เหมือนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

       "พี่คุ้นๆว่า พี่หมูก็เคยซื้อขนมมาฝากริน เคยแวะมาคุยด้วยบ้างนานๆครั้ง แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ พี่หมูกลับบ้านพร้อมริน อย่าบอกนะว่า..." จ๋า เล่าถึงเหตุการณ์ที่พี่หมูเคยแวะเวียนมาหาน้องริน แล้วก็จบด้วยการถามน้องริน เพราะความคาใจ แต่ยังไม่ทันที่น้องรินจะตอบอะไร

       "มันจบแล้วไอ้โป้ง มึงอดละ" จ๋าก็หันมาตบไหล่ไอ้โป้ง เล่นเอาไอ้โป้งอึ้งแดก ยืนนิ่งเป็นหินเลย

       "เดี๋ยวๆๆ อะไร ไปกันใหญ่แล้ว พี่ไม่ได้เป็นอะไรกับน้องรินเลย" สิ้นเสียงพี่หมู ไอ้โป้งมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไว จนผมนึกว่ามันคือ เดอะแฟลช ขยับตัวไวเกิ๊น

       "ห๊ะ จริงดิพี่ จริงๆนะ" ไอ้โป้งดีใจจนเหมือนหมาที่โดนปล่อยออกจากกรง หลังจากที่โดนขังมาทั้งวัน คงพอจะนึกออกนะครับว่าอาการมันเป็นยังไง

       "เอ้า จริงดิ พี่กับน้องรินไม่ได้เป็นอะไรกัน ถึงแม้ว่าพี่เคยจีบน้องรินอยู่ช่วงหนึ่ง แต่สุดท้ายพี่ก็ไม่สามารถแทรกเข้าไปในใจของน้องรินได้" พี่หมูอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ

       "ไม่สามารถแทรกเข้าไปในใจของน้องรินได้ ก็แสดงว่า..รินมีคนที่อยู่ในใจแล้วน่ะสิ" ผมพูดขึ้นด้วยความสงสัย พร้อมกับมองไปที่น้องริน

       ตอนนี้ทุกคนมองไปที่น้องรินเพื่อรอคำตอบ น้องรินทำท่าทางเขินอายอย่างมาก หน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด ไอ้โป้งเองก็รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ เพราะมันหวังว่าสิ่งที่มันไปทั้งหมด น่าจะทำให้น้องรินมีใจให้มันไม่ใช่คนอื่น

       'เฮ้ย ชิบหายละ อย่าบอกนะว่าน้องรินชอบกู ไอ้โป้งเงิบแน่ๆ แต่ถ้าจริงก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาจีบ ได้มาเลยแบบไม่ต้องทำอะไร' ก่อนที่น้องรินจะตอบ แวบหนึ่งผมก็แอบคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าตัวเองอาจจะเป็นคนที่น้องรินชอบก็ได้

       "ริน...มีคนที่ชอบอยู่แล้วจริงๆค่ะ แล้วคนๆนั้นก็คือ...พี่จ๋าค่ะ"

       "ป๊อก!!! ซ่าาาาา..." จ๋าทำแก้วน้ำพลาสติกที่ใส่น้ำอัดลมมาเกือบเต็มแก้วหลุดมือตกพื้น ทุกคนมองไปที่แก้ว แล้วก็หันขวับกลับไปมองที่น้องริน ก่อนจะพูดเป็นเสียงเดียวกัน "ห๊ะ!!!"

       "แหะๆ" น้องรินก้มหน้าก้มตาแบบเขินอายสุดๆ ถ้ามุดลงดินได้ น้องน่าจะมุดไปแล้วล่ะ

       "จบละ มันจบละเพื่อน กูไปซื้อแห้วแดกก่อนนะ" ไอ้โป้งกำลังจะหันหลังออกไปซื้อแห้วกิน

       "พี่โป้งคะ เมื่อเช้ารินซื้อมาพอดี เอาของรินก่อนมั้ยคะ" น้องรินเสนอแห้วที่บังเอิญซื้อมาถูกวันพอดีให้ไอ้โป้ง

       ไอ้โป้งหยุดกึ๊ก แล้วหันมาหาน้องริน พร้อมรอยยิ้มแห้งๆ "อีน้องรินนนนนนนน..." ไอ้โป้งทำหน้าจะร้องไห้ แต่จริงๆมันทำเอาขำๆ จนทุกคนอดหัวเราะกันไม่ได้

       "พอผิดหวังแล้ว ขึ้นอีเลยนะมึง มึงกล้าเรียกแฟนกูว่าอีเหรอ เดี๋ยวถีบๆ" จ๋าทำท่าทางไม่พอใจไอ้โป้ง พร้อมยกเท้าจะถีบ ซึ่งก็ทำให้ทุกคนหัวเราะ บรรยากาศเลยผ่อนคลาย

       จริงๆผมก็สงสารไอ้โป้งมันนะครับ ลงทุนไปก็เยอะ แต่จะทำยังไงได้ล่ะครับ ก็น้องรินดันชอบผู้หญิง แต่ในความผิดหวังนี้ มันก็ยังดีหน่อย เพราะอย่างน้อยๆไอ้โป้งมันก็ไม่ได้แพ้ทอม มันแพ้ผู้หญิงซึ่งยังไงก็เหมือนสู้กับคนละแนวทาง ไม่เหมือนแพ้ทอม อันนั้นน่าเจ็บใจกว่า

       "ว่าแต่จ๋า มึงเอาจริงดิ เป็นแฟนกับน้องรินน่ะ" ผมถามจ๋าทางโทรศัพท์ เพราะผมยังคาใจอยู่ ว่านี่มันเรื่องจริง หรือแค่แกล้งไอ้โป้งกันแน่ แล้วจ้ามันจะเปลี่ยนแนวได้จริงๆเหรอ

       "มึงรู้มั้ย ทำไมกูเลิกกับพี่แมน" จ๋าถามผมกลับ

       "ก็มึงบอกว่า พี่แมนมีคนอื่นไง" ผมตอบ แล้วก็สงสัย ทำไมมันถามผมกลับมาแบบนี้

       "จริงๆแล้วคือ กูค้นพบตัวเองตอนได้อยู่ใกล้ๆกับน้องสาวพี่แมนว่ะ กูไม่รู้มันเกิดจากอะไรยังไงนะ แต่กูรู้สึกว่า กูชื่นชอบในสรีระของผู้หญิงว่ะ กูอยากลูบ อยากคลำ อยากกอด อยากแนบชิดอย่างบอกไม่ถูก จนกูแอบ...นั่นแหละมึงเข้าใจนะ กับน้องสาวพี่แมน จนวันหนึ่งพี่แมนรู้เข้า บวกกับตอนนั้นพี่แมนแม่งก็มีผู้หญิงคนใหม่พอดี กูกับพี่แมนก็เลยเลิกกันด้วยดี แต่กูไม่เคยบอกใคร และก็ไม่มีใครเคยถามลึกๆ กูเลยปล่อยเข้าใจผิดกันไป จริงๆแล้วที่กูไม่ให้พวกมึงสองคนจีบกู ส่วนหนึ่งก็มาจากสาเหตุนี้แหละ แต่คำว่าเพื่อนคือเหตุผลหลักนะมึง" จ๋าอธิบายยาว จนผมบรรลุเข้าใจลึกซึ้งเลย

       "แล้ว...มึงจะปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเพื่อ..." แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่ดี ว่ามันจะปิดเรื่องนี้ไว้ทำไม

       "ก็กูอยากปิดไง มีไรอ่ะเปล่า" จ๋าตอบผมแบบกวนๆแล้วไง และยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรต่อ ก็มีเสียงแทรกเข้ามา "พี่จ๋า อุ๊ย..."

       ผมได้ยินเสียงแล้วก็พูดลอยๆออกไปเบาๆแบบอึ้งๆ "เหี้ย..."

       "กูไม่ใช่เหี้ย กูอีจ๋าเพื่อนมึงนี่แหละ แต่แค่นี้ก่อนนะ น้องรินอาบน้ำเสร็จแล้ว"

       "ตรู๊ดๆๆๆ" เออ...ผมว่า ผมไปหาดนตรีไทยฟังสักหน่อยดีกว่า

ขอบคุณครับ
ต.ต้น

ความคิดเห็น