ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 141 (เรื่องสั้น) _ เป็นคำตอบที่...ถูกต้องนะคร้าบบบบ

เป็นคำตอบที่...ถูกต้องนะคร้าบบบบ
20 เมษายน 2561

       ขณะที่ผมกำลังนั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์อยู่ที่ห้องอย่างจริงจัง ก็ได้มีข้อความไลน์เด้งขึ้นมาในโทรศัพท์ของผม ซึ่งวางอยู่ข้างๆจอคอมพิวเตอร์

       (สติ๊กเกอร์สวัสดี) ทางโน้นส่งสติ๊กเกอร์สวัสดีมาทักทายก่อน

       (สติ๊กเกอร์สวัสดี) เพื่อความยุติธรรม ผมก็ส่งสติ๊กเกอร์สวัสดีกลับไป

       "เย็นนี้ว่างมั้ย พาไปกินข้าวหน่อยสิ" ทางโน้นถามคำถามที่ผมรู้สึกหนักใจมา

       ผมดูเวลาบนโทรศัพท์ แล้วถามกลับไป "ตอนนี้บ่าย 2 เจอกันกี่โมงดีล่ะ"

       "เอาเย็นๆหน่อย แดดจะได้ไม่ร้อนมาก สัก 6 โมงละกัน" ทางโน้นเลือกเวลาที่ต้องการมา

       "โอเค ได้เลย ว่าแต่จะให้พาไปกินอะไรล่ะ" พอได้เวลานัดแล้ว ต่อไปก็ต้องถามถึงว่าจะกินอะไรล่ะ ซึ่งนี่เป็นคำถามโลกแตกมากๆ

       "คิมอยากกินอะไรล่ะ นุชกินอะไรก็ได้ ตามใจคิมเลย" นุชเริ่มสร้างความปวดหัวให้ผมแล้วสิ

       "เอ้า ก็นุชชวนคิมนะ ก็นึกว่านุชมีอะไรที่อยากกินแล้วซะอีก" ผมเริ่มคิดหนักว่าจะกินอะไรดีล่ะ ถ้าเกิดว่านุชย้ำว่า...แล้วแต่คิม

       "ยังไม่ได้คิดเลย แต่อยากไปกินข้าวข้างนอก แล้วแต่คิมเลือกเลย" นั่นไงล่ะ ความปวดหัวมาแล้ว

       ผมเลิกเล่นเกมก่อน เพื่อใช้สมองในการคิดว่า เย็นนี้จะพานุชไปกินอะไรดี ผมต้องคิด วิเคราะห์ แยกแยะอย่างหนัก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาหลังจากที่บอกนุชว่าจะไปกินอะไร หลังจากที่คิดได้สักพัก ก็พอจะคิดออกว่าจะพานุชไปกินอะไรดี

       "กินอะไร คิดออกรึยัง" นุชไลน์ถามอีกครั้ง

       "เดี๋ยวก่อนสิ ขอคิดแปปหนึ่ง" ผมขอเวลาอีกนิดเพื่อความชัวร์

       "อย่าช้าสิ รีบๆเลย นุชจะได้เลือกชุดออกไปกินข้าวถูก" นุชกดดันผมอย่างต่อเนื่อง

       "งั้นเอาเป็นสุกี้ละกัน กินแล้วไม่น่าจะอ้วน" ผมเสนอเมนูนี้ออกไป เพราะนุชชอบบ่นอยู่บ่อยๆว่า กางเกงคับบ้าง เสื้อใส่แล้วพุงปลิ้นดูน่าเกลียดบ้าง เผื่อว่านุชจะอยากกินแล้วรู้สึกว่าไม่อ้วนขึ้น

       "ไม่เอาล่ะ กินสุกี้ก็ต้องไปกินบนห้าง แล้วกินบนห้างทีไร ต้องมีเดินช็อปปิ้งเสียตังค์ซื้ออย่างอื่นทุกที ช่วงนี้ต้องประหยัดหน่อย" นุชปฏิเสธ พร้อมอธิบายเหตุผล ซึ่งมันก็จริงของนุช เพราะเข้าห้างทีไร มีอันต้องเดินช็อปปิ้งทุกที เหมือนเป็นกลไลอัตโนมัติ เข้าห้องแล้วต้องช็อปปิ้ง ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง

       "งั้นสเต็กมั้ย ร้านนอกห้างก็มี" ผมเสนอไปอีก 1 เมนู เพราะกินสเต็กทีไร ต้องมีสั่งสลัดผักมากินด้วย ก็น่าจะถือว่าโอเคอยู่นะ

       "สเต็กเหรอ มันจะเหมือนหมูปิ้งเมื่อเช้าน่ะสิ เมื่อเช้ากินหมูปิ้งไป 4 ไม้แน่ะ" นุชอธิบายซะผมงงเลย

       "หมูปิ้ง กับสเต็ก มันเกี่ยวกันตรงไหนเนี้ย" ผมสงสัยมาก เลยต้องถามนุชเลยทีเดียว

       "เกี่ยวสิ ก็หมูเหมือนกัน ปิ้งกับย่างก็คล้ายๆกัน แล้วเมื่้อเช้าเพิ่งกินปิ้งไป จะให้กินย่างตอนเย็นอีกเหรอ" นุชพิมพ์มาซะยาว แล้วเหมือนจะมีพลังงานอะไรบางอย่างปนมากับข้อความนี้ซะด้วย

       "ก็กินเนื้อแทนสิ" ผมคิดว่าสเต็กเนื้อก็มี เลยแนะนำไป

       "กินเนื้อมื้อเย็นไม่ดีนะ ลืมไปแล้วเหรอ" นุชส่งข้อความมาสั้นๆ แต่ทำไมรู้สึกถึงความโมโหก็ไม่รู้

       "อ่อ แบบนี้นี่เอง อืม...งั้นหมูกระทะละกัน" ผมเสนอไปอีกเมนู ถึงแม้ว่ามันจะขัดแย้งกับ 2 เมนูที่กินแล้วไม่อ้วนตอนแรกก็เถอะ แล้วมันก็เป็นหมูคล้ายๆหมูปิ้งด้วย

       "จริงๆมันก็คล้ายๆหมูปิ้ง กับสเต็กนะ แต่มันน่ากินกว่า" นุชพูดแบบนี้ แสดงว่าน่าจะจบที่หมูกระทะแน่ แต่ผิดคาด ยังไม่จบ "แต่ไม่เอาล่ะ ขี้เกียจสระผม กินหมูกระทะทีไร หัวเหม็นจนต้องสระผมตอนดึกทุกที ไม่เอาดีกว่า" นุชยังคงปฏิเสธเมนูที่ผมเสนอไป

       "โห กินอะไรดีล่ะเนี่ย ช่วยคิดหน่อยสิ" ผมเริ่มคิดไม่ออกแล้วว่า จะพาไปกินอะไรดี จนต้องขอให้นุชช่วยคิด

       "อะไรก็ได้ ตามใจคิมเลย" นุชยังยืนยันคำเดิม แต่ผมเสนออะไรไปก็ไม่กิน มันชักจะยังไงๆแล้วนะ

       สุกี้ไม่กิน เพราะมันอยู่ในห้าง แล้วร้านที่ชอบไปกินส่วนใหญ่ก็อยู่ในห้างซะด้วยสิ ไม่ว่าจะเป็นร้านยำ ร้านพิซซ่า ร้านไก่ทอด ร้านปิ้งย่าง เมนูอะไรที่อยู่ในห้องตัดไปได้เลย

       สเต็ก กับหมูกระทะ รวมไปถึงทะเลเผา ก็คงหมดสิทธิ์ เพราะกินแล้วหัวเหม็น นี่น่าจะรวมไปถึงร้านผัดไทที่ไปกินประจำด้วนสินะ เพราะร้านนั้นไปกินทีไร กลับมาต้องสระผมด้วยเหมือนกัน อืม...ถ้างั้นก็ต้องที่นี่แล้วล่ะ

       "ไปกินร้านปลาเผาละกัน กำลังอยากกินปลาเผาพอดีเลย" ผมเสนอร้านอาหารร้านประจำที่ชอบไปกินกันในวันพิเศษๆ หรือวันหยุดยาวๆก็ชอบไปนั่งกิน เพราะวันหยุดยาวคนมักจะออกไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือไม่ก็กลับบ้านต่างจังหวัดกัน ทำให้ร้านมีคนไม่เยอะ

       "วันนี้วันเสาร์ธรรมดานะคิม ไม่ได้หยุดยาว คนต้องเยอะแน่ๆเลย อีกอย่างนะ มันก็ไม่ใช่วันพิเศษอะไรของเราเลย คิมจะไปกินจริงๆเหรอ" นุชแย้งมาทุกข้อตามที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด

       "ก็วันเกิดอยากกินไง นี่แหละวันพิเศษของเรา" แต่ผมก็เตรียมคำตอบแก้ทางไว้แล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า

       "โห มุกนี้เลยเหรอคิม แต่ไม่เอาดีกว่า เก็บไว้วันพิเศษจริงๆค่อยไปกินร้านนี้ดีกว่า" นุชก็ยังคงปฏิเสธข้อเสนอของผมอีกครั้ง

       ตอนนี้ผมเริ่มหนักหัวละ ต้องเอามือท้าวคาง แล้วก็มองบนเพดานแล้ว เผื่อว่าจะมีเมนูอะไรปิ๊งออกมา ระหว่างที่ผมกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น ก็มีคนมาเคาะประตูห้องผม

       "ก๊อกๆๆ" เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ผมจึงต้องหยุดคิด แล้วลุกเดินไปเปิดประตู

       "อ้าว นุช อะไรเนี่ย ใจร้อนเหรอ มาถึงห้องเชียว" คนที่มาหาผมก็คือ นุชนั่นเอง

       "ขี้เกียจพิมพ์ไลน์ละ เหนื่อย มาคุยถึงห้องกันเลยดีกว่า" จริงๆแล้วห้องผม กับห้องนุช อยู่ชั้นเดียวกันในอพาร์ทเม้นท์นี่แหละครับ แต่ด้วยความขี้เกียจลุกจากเตียงของนุช ทำให้นุชชอบไลน์มาคุยกับผมซะมากกว่า

       "ฮ่าๆๆ เอาไงว่ามาโลด" ผมอดขำไม่ได้ที่นุชยอมเอาชนะความขี้เกียจลุกมาหาผมถึงห้อง สงสัยความขี้เกียจพิมพ์จะชนะความขี้เกียจลุกจากเตียง

       "เอาไงล่ะ ก็มารอให้คิมเลือกนี่แหละ ว่าจะกินอะไร นี่ก็จะบ่ายสามละนะ คุยกันมาเกือบชั่วโมง ยังไม่รู้จะกินอะไรเลย" นุชมาถึงก็บ่นๆๆ

       [ก็ใครล่ะ ที่ทำให้ยาก] ผมแอบบ่นในใจ

       "งั้นเอางี้ มีร้านอาหารที่เราเคยบอกว่าอยากจะไปกินไง จำได้มั้ย" ผมถามนุช ดูว่านุชจะจำได้มั้ย ซึ้งนุชพยักหน้า "นั่นแหละๆ เราไปร้านนั้นกัน ไปลองกินดู" เมื่อนุชพยักหน้าจำได้ มันก็เข้าทางผมล่ะ ผมเลยเสนอร้านนั้นซะเลย

       "แต่ร้านนั้นท่าทางคนจะเยอะนะ ที่เราเล็งๆไว้ว่าจะไปกิน แต่ก็ไม่ได้ไปกินสักที ก็เพราะคนมันน่าจะเยอะไม่ใช่เหรอ" นุชเริ่มแย้งอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ปฏิเสธจนผมต้องถาม "แล้ว..." นุชทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า "ไม่ดีกว่า"

       โน้นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่เอา ผมเริ่มโมโหแล้วเหมือนกัน แต่ก็ยังควบคุมอารมณ์ได้อยู่ แล้วก็คิดต่อไปว่าจะกินอะไร แล้วอยู่ๆเหมือนมีคนทำอาหารแถวๆนั้น กลิ่นอาหารลอยมาแตะจมูก ทำให้ผมอยากกิน...

       "หอมจริงๆเลย ใครปิ้งไก่แถวนี้เนี่ย ว่าแล้วก็ไปร้านลาบมั้ย ลาบ น้ำตก ส้มตำ ไก่ย่าง แจ่มเลยนะ" ผมพูดไปน้ำลายไหลไป หวังว่านุชจะตอบตกลง เพราะมีกลิ่นมาแตะจมูกขนาดนี้แล้ว

       "วันก่อนเพิ่งไปกินกับไอ้เก๋มา ยังไม่อยากกินเลยน่ะ กินอย่างอื่นเถอะ" นุชปฏิเสธอีกครั้ง ทำเอาผมแทบหมดหนทางเดินต่อ

       "กินอะไรเนี่ย โน้นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่กิน ไหนว่ากินอะไรก็ได้ตามใจคิมไง" ผมเริ่มโมโหจนต้องพูดให้นุชเข้าใจบ้างแล้ว

       "อะไรคิม แค่นี้ก็โมโหแล้วเหรอ เอางี้ละกัน เดี๋ยวคิมแต่งตัวรอนะ หกโมงตรง นุชจะมาเรียก แล้วเราก็ออกไปกินข้าวกัน เดี๋ยวนุชจัดการเอง คิมไม่ต้องละ" นุชบอกผมด้วยอารมณ์นิ่งๆ ไม่ได้โมโหอะไร แถมเหมือนจะแอบอารมณ์ดีอีกต่างหาก ทำเอาผมงงไปเหมือนกัน

       "โอเค ได้เลย แล้วให้แต่งตัวยังไงล่ะ" ผมโล่งใจขึ้นเยอะเลย ที่ไม่ต้องคิดแล้วว่าเย็นนี้จะพานุชไปกินอะไรดี

       "เสื้อยืด เกงยีนส์นี่แหละ ขาสั้นก็ได้นะ ถ้าใส่ขายาวแล้วร้อนน่ะ" นุชอธิบายการแต่งตัวให้ผมฟัง

       "ห๊ะ มันแต่งตัวสบายๆขนาดนั้นเชียวเหรอเนี่ย" ผมสงสัยหนักเลยทีเดียว ว่าจะชวนผมไปกินอะไร ทำไมให้แต่งตัวสบายๆเหลือเกิน

       "เอาน่ะ ไปละ หกโมงเจอกัน" แล้วนุชก็กลับห้องไป

       ผมก็ยังคงงงๆอยู่ว่า นี่มันเกิดอะไรขึ้น จะมาก็มา จะไปก็ไป แล้วเสนออะไรไปก็ไม่เอา ปฏิเสธอย่างเดียว แล้วอยู่ๆบอกว่าไม่ต้องละ เดี๋ยวพาไปกินเอง ผมคิดไปคิดมาก็งง แต่ไหนๆเวลาก็ยังเหลือ ผมเลยเล่นเกมต่อดีกว่า

       "ก๊อกๆๆ" เสียงเคาะประตูดังขึ้น นุชคงมาแล้ว ผมเลยไปเปิดประตูให้

       "โว๊ะ ใส่ชุดราตรีทำไมเนี่ย" ผมตกใจเมื่อเห็นนุชอยู่ในชุดราตรีที่เป็นเดรสสีม่วงอ่อน

       "เปิดตู้หาชุดใส่ แล้วบังเอิญเจอชุดนี้ อยู่ๆก็อยากใส่ ก็เลยหยิบมาใส่มันซะเลยน่ะ" นุชพูดไปยิ้มไป ดูหน้าตามีความสุขมาก

       "แบบนี้คิมต้องเปลี่ยนชุดมั้ยเนี่ย" ตอนนี้ผมใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น แทบจะเป็นชุดอยู่บ้านเลยทีเดียว

       "ไม่ต้องๆ ใส่แบบนี้แหละ ปะ ไปกันเลย หิวละ" ว่าแล้วนุชก็ลากผมออกจากห้องอย่างรวดเร็ว

       หลังจากเดินลงมาจากอพาร์ทเม้นท์ ผมก็กำลังจะเดินไปที่จอดรถ แต่นุชกลับบอกว่าไม่ต้องเอารถไปหรอก ผมก็ตามใจ สงสัยไม่อยากให้ขับรถไป คงกลัวไม่มีที่จอดรถ ผมเดินตามนุชออกไปถึงประตูรั้วของอพาร์ทเม้นท์ เห็นรถแท็กซี่เปิดไฟว่างมาพอดี กำลังจะโบกรถ นุชหันมาบอกว่าไม่ต้องโบกนะ ผมยิ่งงงไปกันใหญ่ แล้วนุชก็ชี้ไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวปลาซึ่งเป็นร้านตึกแถวอยู่ติดกับอพาร์ทเม้นท์

       "ก๋วยเตี๋ยวปลาเนี่ยนะ" ผมถามนุชด้วยความสงสัยสุดๆ

       "ใช่ ก๋วยเตี๋ยวปลา ทำไม ไม่กินเหรอ ถ้าไม่กินก็กลับกันเลยนะ" นุชทำท่าทางเหมือนจะไม่พอใจผม จนผมไม่กล้าปฏิเสธ และถามอะไรอีก

       ผมกับนุชไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวปลา ซึ่งร้านจะเป็นตึกแถว บริเวณทำก๋วยเตี๋ยวจะอยู่ตรงหน้าตึกพอดี ภายในตึกก็จะมีโต๊ะอยู่ 5 โต๊ะ ส่วนหน้าตึกหรือหน้าร้านจะมีอยู่ 3 โต๊ะ นุชเลือกที่จะนั่งเด่นเป็นสง่าด้วยชุดราตรีเดรสสีม่วงอ่อนที่โต๊ะหน้าร้าน

       ระหว่างที่กำลังกินก๋วยเตี๋ยวปลากันไป ผมก็สังเกตเห็นคนแอบมองผมกับนุชกันหลายคนเลย เขาคงคิดว่าหมาวัดจะเด็ดดอกฟ้า หรือไม่ก็เจ้านายสาวสวยกับคนขับรถรึเปล่าน้อ เพราะการแต่งตัวของผมกับนุชมันช่างต่างกันเหลือเกิน

       "นุช ถามอะไรหน่อย" ผมถามขึ้นระหว่างที่นุชกำลังคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก

       "อืมๆ มีไร" นุชเคี้ยวเส้นก๋วยเตี๋ยวแล้วพยายามถามผมกลับ

       "ประจำเดือนมาปะเนี่ย" อยู่ๆผมก็เกิดสงสัยอะไรบางอย่างขึ้นมา

       "ใช่ ทำไมเหรอ" นุชตอบผม แล้วมองหน้าผมแบบงงๆ

       [นั่นไงกูว่าแล้ว] ผมคิดในใจ

       "ไม่มีอะไร กินต่อๆ อิ่มมั้ยน่ะ เบิ้ลอีกชามปะ" ผมกลัวนุชจะไม่อิ่ม เลยถามเบิ้ลให้เลย ซึ่งแน่นอนว่า นุชไม่ปฏิเสธ

ความคิดเห็น