ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 139 (บทความ) _ วิทยาศาสตร์ กับความเชื่อ ที่ก็ยังต้องคู่กันต่อไป

วิทยาศาสตร์ กับความเชื่อ ที่ก็ยังต้องคู่กันต่อไป
4 เมษายน 2561

       ก็สารภาพกันตรงๆเลยว่า จริงๆไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไรดี แต่ก็ตั้งใจไว้ว่า ต้องเขียนบทความสัปดาห์ละ 1 บทความ ก็เลยเอาวะ เปิดข่าวเว็บสนุกดู เจอข่าวไหน ก็เขียนบทความในแนวคิดตัวเองละกัน และวันนี้ก็เจอข่าว "บาตรน้ำมนต์มรณะ" ทำสาว 18 ดับ

       แม้ว่าในยุคนี้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมากขนาดไหน แต่ก็ต้องยอมรับว่าความเชื่อเดิมๆเมื่อครั้งสมัยก่อน ก็ยังคงอยู่คู่กับปัจจุบันอยู่ดี แล้วก็เชื่อว่าจะคงอยู่ไปอีกนานในอนาคตเลยทีเดียว

       ผมจะไม่พูดประเด็นความเชื่อ ความคิด ความสมัยใหม่ หรืออะไรต่างๆนาๆที่จะทำให้เกิดข้อดราม่านะครับ แต่ผมจะมาพูดถึงว่า ความลงตัวของวิทยาศาสตร์ กับความเชื่อ ที่มันอยู่ด้วยกันได้

       หากใครได้ดูภาพยนตร์เรื่อง พิงค์ แพนเธอร์ แฮร่ ไม่ใช่สิ แบล็ค แพนเธอร์ จะได้เห็นความลงตัวของสุดยอดเทคโนโลยี อยู่กับกันวิถีความเชื่อได้อย่างลงตัวเลยล่ะครับ เมืองวากานด้า มีแร่ที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลมาเวล มีเทคโนโลยีที่สุดยอดความล้ำหน้าไว้ใช้งาน แต่ก็ยังคงพิธีกรรมต่างๆตามความเชื่อไว้ มันช่างลงตัวเหลือเกินครับ

       กลับมาสู่โลกของความเป็นจริง ในทุกวันนี้เทคโนโลยีเราก็ก้าวหน้าไปมากนะครับ แต่ความเชื่อก็ยังไม่หายไป ลองคิดดูนะครับว่า ในวันสิ้นปีของแต่ละปีทุกวันนี้ มีเรื่องความเชื่อที่เกิดขึ้นบ่อยขึ้น และเยอะขึ้นเรื่อยๆคืออะไรครับ อย่าเสียเวลาทายเลย เฉลยเลยดีกว่า ปิ๊ง สวดมนต์ข้ามปีไงครับ นี่คือความเชื่อที่มีมาแต่สมัยก่อน ส่วนเทคโนโลยีที่เข้ามาเกี่ยวข้องก็เช่น การถ่ายทอดสด หรือการ Live ผ่านช่องทางต่างๆ นี่แหละครับ มันอยู่กันได้ มันอยู่ที่มุมมอง

       หรือจะเอาแบบความเป็นความตายล่ะครับ สมมุติว่าใกล้สอบแล้ว เราก็อ่านหนังสือจากตำรา หาความรู้เพิ่มจากอินเตอร์เน็ต วิดีโอคอลกับเพือนๆเป็นกลุ่ม หรือคอลกับคุณครูไปเล้ย ตอนนี้ความรู้แน่นปึ๊ก แต่ก็เอาน่ะ เพื่อความสบายใจ ทำไงๆ...ไปไหว้พระขอพรด้วยละกัน นี่ไงครับ ถึงบอกว่าเทคโนโลยี กับความเชื่อยังไปด้วยกันได้ แล้วมันก็เป็นความเป็นความตายของคนสอบด้วยนะ ลุ้นระทึกเลยล่ะ ฮ่าๆๆ

       หรือยกตัวอย่างอีกสักเหตุการณ์ คนป่วย ป่วยหนักเลย วิทยาศาสตร์ที่เข้ามาช่วยคือ ยา และความรู้ต่างๆเกี่ยวกับร่างกาย เพื่อให้เราดูแลตัวเอง แต่รักษาอยู่นาน ก็ไม่ดีขึ้นสักที วันดีคืนดีคนป่วยมุ่งสู่ความเชื่อ ไปหาหมอชาวบ้าว หมอชาวบ้านบอกว่า เอาอันนั้น อันนี้ไปต้มกินนะ พอคนป่วยลองทำตาม อ้าวเฮ้ย ดีขึ้นจริงๆด้วย แล้วพอเอาอันนั้น อันนี้ที่หมอชาวบ้านแนะนำไปพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ เอ้า ไม่เห็นจะน่ามีผลอะไรเลย ซึ่งอันนี้ผมก็คิดว่า บางทีความเชื่อ ก็มีแรงใจด้วยส่วนหนึ่ง มันเลยทำให้เกิดอะไรแปลกๆได้นะครับ หรือตัวยาอาจจะมีผลจริงๆก็ได้ ซึ่งผมก็ไม่รู้

       ทั้ง 2 เรื่องเป็นเรื่องใกล้ตัวนะครับ แทบทุกคนมีความเชื่อ และใช้เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ต่างๆกันไป หากมีใครผิดพลาดอะไร จากเรื่องอะไรก็ตาม ก็ไม่ควรไปดูถูก หรือยกเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาข่มกันนะครับ เพราะยังไงแล้ว ทั้ง 2 เรื่องนี้ ก็ต้องอยู่ควบคู่กันไปอีกนานครับ

ขอบคุณครับ
ต.ต้น

ความคิดเห็น