หางเสียง
21 / 01 / 2558
เมื่อก่อนหน้านี้ผมไม่เคยเชื่อเลยว่า หางเสียง มันจะมีประโยชน์ หรือมีผลกระทบต่อความรู้สึกอะไรมากนัก จนเมื่อผมมาเจอกับตัวเองนี่แหละครับ มันเลยทำให้ผมรู้สึกว่า หางเสียง มันสำคัญขนาดไหน
ในกรณีที่เป็นเพื่อนกัน ผมเชื่อว่าแทบทุกคนเวลาคุยกับเพื่อนไม่มีหางเสียงหรอกครับ เพราะมันไม่มีความจำเป็น แล้วในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณดันไปพูดมีหางเสียงกับเพื่อนล่ะก็นะ ความรู้สึกมันจะเหมือน เฮ้ย ทำไมมันพูดเหมือนแค่คนที่รู้จักกันวะ ทำไมมันฟังดูห่างเหินจังวะ
สำหรับคนในครอบครัว เวลาพูดกับพ่อแม่ พี่น้อง บางพื้นฐานก็พูดกันมีหางเสียง บางพื้นฐานก็ไม่มีหางเสียง แต่ผมเชื่อว่าส่วนมากจะเป็นอย่างหลังซะมากกว่า เพราะการพูดไม่มีหางเสียงสำหรับคนในครอบครัว ไม่ใช่ไม่ให้เกียรติกันนะ แต่ว่ามันคือ ความผูกพันที่ลึกซึ้งมากแล้ว จนหางเสียงไม่มีความจำเป็น (ยกเว้น 3 คำ สวัสดี ขอโทษ ขอบคุณ อันนี้เป็นสัญชาตญาณของคน ที่ควรมีหางเสียงโดยไม่ต้องมีใครสอน)
กับญาติผู้ใหญ่ จริงๆควรพูดมีหางเสียง เพราะเขาไม่ใช่คนในครอบครัวโดยตรง แต่เป็นคนที่เราควรให้ความเคารพ การพูดมีหางเสียงด้วยจะทำให้เราได้รับความเอ็นดูมากยิ่งขึ้น ในภายภาคหน้าหากมีเรื่องจำเป็นให้ญาติผู้ใหญ่ช่วยเหลือ การขอความช่วยเหลือก็จะง่ายขึ้นด้วย
หรือเวลาคุยกับคนที่อายุมากกว่า ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใคร ทำหน้าที่อะไรอยู่ เราก็ควรพูดมีหางเสียง เพราะมันจะทำให้คนที่เราคุยด้วย เขารู้สึกดี และอยากคุยด้วย ไม่ว่าเขาจะมีหน้าที่การงานต่ำกว่าเรา แต่เขาอายุมากกว่าเรา เราก็ควรพูดมีหางเสียงเพื่อให้ความเคารพแก่เขา ไม่เช่นนั้นแล้ว เราอาจจะตกเป็นที่นินทาของคนอื่นได้ว่า เป็นเด็กที่พูดจาไม่ใช่เกียรติผู้ใหญ่
เขียนถึงเรื่องอื่นมาหลายย่อหน้าแล้ว คราวนี้ได้เวลาเขียนถึงเรื่องของผมล่ะนะครับ ที่ผมต้องลุกขึ้นมานั่งเขียนเรื่องหางเสียงนั้น มันก็เพราะว่า ผมรับเติมเงินโทรศัพท์ออนไลน์ด้วยเป็นธุรกิจเสริม แล้วคนที่มาเติมเงินมันก็มีหลากหลายอาชีพ และอายุ เวลาผมรับเติมเงินเสร็จ ลูกค้าจ่ายเงินให้ผม ผมก็ "ขอบคุณครับ" เป็นเรื่องธรรมดามากๆของคนที่เขาทำกัน
แต่...มันมีคนอยู่แค่ไม่กี่คน ที่มาเติมเงินกับผมแล้วทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด นั่นก็เพราะว่า เขาพูดไม่มีหางเสียงเลยสักครั้ง ทั้งๆที่ผมก็เขาแค่ไม่กี่คนเนี่ย ก็ไม่ได้สนิทอะไรกันเลย เป็นแค่พ่อค้ากับลูกค้าธรรมดาๆ
"เติมเงินหน่อย" "เบอร์นี้นะ" "หนึ่งร้อย" "ขอบคุณ" ขนาดพูดว่าขอบคุณยังไม่มีหางเสียงเลยครับ ผมนี่หงุดหงิดแทบทุกครั้งที่ต้องเติมเงินให้เขาเหล่านั้น (แค่ไม่กี่คน ใช้คำว่า เหล่านั้น กันเลยทีเดียวเชียว)
แต่กับบางคนที่ทำหน้าที่ (ทำงาน) เดียวกันกับเขาเหล่านั้น เวลาเขามาเติมเงิน เขาจะพูดมีหางเสียงตลอดทุกครั้ง บรรยากาศในการเติมเงินเลยดูราบรื่น ยิ้มให้กันบ้าง คุยเรื่องอื่นนอกจากเรื่องเติมเงินบ้าง แบบนี้สิถึงค่อยน่าคุยด้วยหน่อย
ผมเองก็ไม่รู้หรอกนะครับว่า กับคนที่เขาพูดไม่มีหางเสียงเนี่ย เขาเป็นเฉพาะกับผม หรือเป็นกับทุกคนที่เขาพูดด้วย ในพื้นฐานการสื่อสารของเขาไม่ได้บรรจุหางเสียงไว้หรืออย่างไร เพราะขนาดไลน์มาเติมเงิน หางเสียงก็ยังไม่มีเลย ให้ดิ้นตายสิ (ที่เป็นเพื่อนในไลน์นี่ ไม่ใช่เป็นเพื่อนกันจริงๆนะ แค่แอดไว้สำหรับเติมเงินเฉยๆ)
จริงๆเรื่องแค่ไม่มีหางเสียงแค่นี้ ผมก็ไม่น่าเอามาเป็นเรื่องเป็นราวเขียนเป็นบทความเลยเนอะ แต่ว่าด้วยความคิดที่ว่า ถ้ามีคนที่ชอบพูดไม่มีหางเสียงมาอ่านเจอ เขาอาจจะคิดใหม่ ทำใหม่ เริ่มพูดมีหางเสียงก็ได้ (จริงๆหงุดหงิดเลยมาระบายอารมณ์ออกทางบทความ เหตุผลที่ว่ามาข้างต้น แถจนสีข้างเลือดไหลซิบๆเลย)
หางเสียงง่ายๆ ครับ, ค่ะ, คะ สามคำง่ายๆสำหรับผู้ชายและผู้หญิง (ฮะ คงสำหรับทอมสินะ ส่วนกระเทยนี่ หางเสียงคงใช้กับผู้หญิงสินะ) ที่เวลาใช้พูดต่อท้ายคำ หรือประโยคต่างๆ ทำให้คำ หรือประโยคเหล่านั้นฟังลื่นหูมากขึ้น
สมมุติเหตุการณ์การสนทนาที่ 'มีหางเสียง' ของผู้ชาย กับผู้หญิงที่ไม่รู้จักกัน หรือไม่ค่อยสนิทกันดู มาลองดูว่าผู้หญิงน่าจะคิดยังไงกับคนที่พูดมีหางเสียง...
"สวัสดีครับ" (ผู้ชายพูดด้วย ยิ้มด้วย) เอ๊ะ เขาเป็นใคร มาทักทายเราทำไม แต่ก็ดูเป็นมิตรดีนะ
"ชื่ออะไรครับ" ถามเราแบบนี้ แสดงว่าเขาคงอยากรู้จักเรา
"ผมชื่อ ต้น นะครับ" อ่อ ชื่อต้น เขามาทักเราแบบนี้ แถมยังแนะนำตัวอีก หรือว่าเขาจะชอบเรา
"กินข้าวรึยังครับ" เอ๊ะ หรือเขาจะอยากชวนเราไปกินข้าว ตอบว่ายังไม่ได้กินดีมั้ยนะ
ก็ว่ากันไปนะครับ แล้วก็อาจจะคุยกันยาวๆ เรื่องอื่นๆต่อไปอีกก็ได้นะครับ
สมมุติเหตุการณ์การสนทนาที่มี 'ไม่มีหางเสียง' ของผู้ชาย กับผู้หญิงที่ไม่รู้จักกัน หรือไม่ค่อยสนิทกันดู มาลองดูว่าผู้หญิงน่าจะคิดยังไงกับคนที่พูดมีหางเสียง...
"สวัสดี" (ผู้ชายพูดด้วย ยิ้มด้วย) เอ๊ะ ไอ้นี่เป็นใคร เรารู้จักเหรอวะ
"ชื่ออะไร" เอ้า อยู่ๆมาถามชื่อ อะไรของมันเนี่ย
"ผมชื่อ ต้น นะ" ไม่ได้ถามเลย บอกกูทำไมเนี่ย
"กินข้าวรึยัง" เอ้า เรื่องของกูู ยุ่งอะไรเนี่ย
ก็ว่ากันไปนะครับ แต่ก็อาจจะคุยกันแค่สั้นๆแค่นั้น แล้วไม่ได้คุยกันอีกเลยก็ได้
อย่าลืมนะครับว่า ที่ผมเขียนไปน่ะ มันเป็นเหตุการณ์ที่สมมุติขึ้นมา เพราะในความเป็นจริง หน้าตา ท่าทาง การแต่งตัว ฯลฯ มันก็มีผลต่อคนที่คุยด้วย (แต่มันก็อ้างอิงมาจากเรื่องจริงนิดนึงนะ)
จะยังไงก็แล้วแต่ ผมเชื่อว่าการพูดมีหางเสียง มันมีพลังมากกว่าการพูดไม่มีหางเสียงนะครับ เพราะมันทำให้คนที่เราพูดด้วยรู้สึกดีกว่า ฉะนั้นแล้ว เวลาพูดกับใครก็อย่าลืมหางเสียงกันด้วยนะครับ/นะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น