ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 109 (เรื่องสั้น) _ คิดต่าง

คิดต่าง
26 / 02 / 2558

     "เออ...น้อง ไปๆ ไปกินข้าวกันได้ละ ใกล้เที่ยงแล้ว" หนุ่ย พนักงานบริษัทซึ่งทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งมานานกว่าพนักงานใหม่อย่างต้อม กำลังจะออกไปกินข้าวเที่ยงกับกลุ่มเพื่อน แต่เขาเห็นว่าพนักงานใหม่อย่างต้อมคงจะยังไม่คุ้นเคยกับใครในบริษัทนอกจากตัวเขาซึ่งเป็นที่เลี้ยง จึงได้เข้าไปชักชวนให้ไปกินข้าวด้วยกัน

     "พี่ๆไปกันก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมรอเที่ยงก่อน" ต้อมดูเวลาที่จอคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ก่อนที่จะบอกปฏิเสธคำชวนของรุ่นพี่ที่บริษัทด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร

     "เออๆ ก็ได้ ตามใจน้องก็แล้วกัน" หนุ่ยไม่ได้คิดอะไรมากมายกับคำปฏิเสธของพนักงานน้องใหม่ ก่อนที่จะเดินออกไปกินข้าวกับกลุ่มเพื่อน

     ต้อม เป็นพนักงานใหม่ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เขาเป็นคนที่ใครๆต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า กวน(อวัยวะเบื้องล่าง)มากทีเดียว แต่ถึงแม้ว่าเขาจะกวน(อวัยวะเบื้องล่าง)มากแค่ไหน เขาก็เป็นคนที่มีเพื่อนที่คอยหวังดีอยู่เยอะมากๆคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะย้ายมาทำงานที่บริษัทแห่งใหม่นี้ เขาเคยทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวของระบบงานข้าราชการมาก่อน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้เขาต้องจำใจลาออกแล้วหันมาทำงานที่บริษัทเอกชนแทน

     "ผลงานใช้ได้เหมือนกันนี่หน่าเราน่ะ" หัวหน้าของต้อม ชื่นชมในผลงานที่ต้อมทำออกมาได้อย่างน่าพอใจเป็นชิ้นแรกกับบริษัทใหม่แห่งนี้

     "จริงๆมันก็ยังไม่สมบูรณ์นะครับ ผมยังต้องเติมส่วนที่ขาดไปอีกหลายจุดเลย" ต้อมยิ้มหน้าบานกับคำชมของหัวหน้า แต่ก็ไม่วายติผลงานของตัวเอง

     "โอย ไม่ต้องแล้ว แค่นี้ก็ส่งให้ลูกค้าได้แล้วล่ะ ไปๆ ไปพักเถอะ เดี๋ยวค่อยทำงานชิ้นต่อไป เดี๋ยวผมมีงานใหม่แล้วจะบอกนะ" หัวหน้าของต้อมพอใจในผลงานแล้ว พร้อมกับบอกให้ต้อมไปพักผ่อนเพื่อรองานชิ้นใหม่ต่อไป

     "ไม่ได้นะครับหัวหน้า เดี๋ยวหัวหน้ารอผมสักสิบห้านาทีนะครับ เดี๋ยวผมจะส่งผลงานที่สมบูรณ์แล้วมาให้ครับ" ต้อมพูดจบ ยังไม่ทันที่หัวหน้าจะแย้งว่าไม่ต้องแล้ว ต้อมก็ออกจากห้องของหัวหน้า แล้วกลับไปปั่นงานต่อให้สมบูรณ์ทันที ปล่อยให้หัวหน้าสบถเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มว่า "ไอ้นี่ กวน(อวัยวะเบื้องล่าง)จริงๆ"

     "ต้อมพักอยู่ที่ไหนล่ะ" ออย สาวสวยประจำแผนกที่หนุ่มๆในบริษัทชอบแอบมอง เข้ามาถามพนักงานใหม่อย่างต้อมที่กำลังนั่งฟังเพลงอยู่เงียบๆหลังจากที่ส่งงานให้หัวหน้าเรียบร้อยแล้ว

     "ผมพักอยู่ที่เคหะเนินสูงน่ะครับ" ต้อมมีอาการเขินอายเล็กน้อย ที่สาวสวยประจำแผนกเข้ามาคุยด้วย

     "เอ้า โลกกลมจริงๆ อยู่ที่เดียวกันเลย แบบนี้พี่ก็สบายล่ะ มีเพื่อนร่วมทางแล้ว" ออยถึงกับตกใจ ไม่คิดว่าต้อมจะพักอยู่ที่เคหะเดียวกัน แต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกสบายใจด้วยเช่นกัน ที่ได้รู้ว่าจะมีเพื่อนร่วมทางในการเดินทางไป และกลับระหว่างบ้านกับที่ทำงาน

     "แหะๆ ครับ" ต้อมไม่พูดอะไรมาก เนื่องจากทั้งเขิน ทั้งงง ที่อยู่ๆพี่สาวคนสวยก็มาคุยด้วย แถมยังจะได้ร่วมเดินทางไปกลับระหว่างบ้านกับที่ทำงานกับพี่สาวคนสวยทุกวันอีกด้วย

     เลิกงานเย็นวันนี้ ต้อมเดินไปขึ้นรถเมล์พร้อมกับพี่ออยทันที จนคนในบริษัทที่เห็นทั้งคู่เดินไปด้วยกัน พากันซุบซิบด้วยความสงสัย

     "พี่ว่า..พี่ทำให้เธอต้องลำบากนะเนี่ยต้อม ดูสิเมื่อกี้มีแต่คนมองแล้วก็ซุบซิบกัน พี่ว่าเธอต้องโดนนินทาว่าหัวสูง กล้าจีบนางฟ้าอย่างพี่แน่ๆเลย" ออยรู้สึกไม่สบายใจ ที่ทำให้พนักงานใหม่แกะกล่องอย่างต้อมต้องโดนซุบซิบนินทา แต่ก็ไม่วายชมตัวเองซะสวยเลยว่าเป็นนางฟ้า

     "ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ออย ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยของพี่ มันสำคัญกว่าคำนินทาของคนอื่นครับ" ต้อมพูดกับพี่ออยด้วยรอยยิ้ม ซึ่งคำพูดของต้อมทำเอาออยถึงกับอึ้งอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าคนที่พึ่งรู้จักกันไม่ถึงหนึ่งวันจะมีความคิดที่หวงตัวเองมากขนาดนี้ จนออยเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า ต้อมคิดจะจีบตัวเองจริงๆหรือเปล่า

     ระหว่างที่ทั้งคู่นั่งรถเมล์ที่มีผู้โดยสารเต็มคันรถไปด้วย คุยกันอย่างถูกคอไปด้วย รถเมล์ก็มาจอดที่ป้ายรถเมล์ แล้วอยู่ๆต้อมก็ลุกพรวดขึ้นไปซะเฉยๆ ทำเอาออยงงเลยทีเดียว

     "เป็นอะไรต้อม ลุกทำไม" ออยทำหน้าสงสัย แต่ต้อมก็ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมา ได้แต่ยิ้มให้ แล้วต้อมก็หันไปมองที่ทางประตูรถเมล์ซึ่งกำลังเปิดรับผู้โดยสารให้ขึ้นมาบนรถ ทันทีที่เห็นผู้โดยสารที่เป็นทั้งเด็ก สตรี และคนชรา ออยก็เข้าใจได้ทันทีเลยว่าต้อมลุกทำไม

     "คราวหน้าไม่ต้องลุกก็ได้นะต้อม คิดดูสิจริงๆก็ไม่มีใครเค้าลุกให้กันหรอก ยืนนานๆมันเมื้อย ปล่อยให้ผู้หญิงยืนบ้างก็ได้" ออยบอกกับต้อม หลังจากที่ทั้งคู่ลงจากรถเมล์ แล้วต้อมเดินมาส่งออยถึงที่หน้าบ้านแล้ว

     "ถ้าพี่ออยขึ้นรถเมล์ไป แล้วที่นั่งเต็ม พี่ออยอยากให้มีคนลุกให้พี่ออยนั่งบ้างรึเปล่าล่ะครับ (ต้อมเงียบ แล้วมองหน้าพี่ออย) นั่นล่ะครับ คือคำตอบที่ทำไมผมถึงลุกให้ผู้หญิง หรือคนอื่นๆนั่งครับ" ต้อมพูดจบพร้อมรอยยิ้ม แล้วก็เดินกลับบ้านของตัวเองทันที ปล่อยให้ออยอ้าปากค้าง รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าสั่งสอนจนหน้าชายังไงยังงั้น ก่อนที่จะสบถเบาๆว่า "ไอ้นี่ กวน(อวัยวะเบื้องล่าง)จริงๆ"

     เช้าวันต่อมา ต้อมเดินไปรับพี่ออยที่หน้าบ้าน แต่พี่ออยกลับทำตัวเอ้อระเหยเหมือนกับว่า ตั้งใจจะไปเข้างานสาย จนต้อมทนไม่ไหวต้องเข้าไปลากตัวพี่ออยให้รีบออกจากบ้าน

     "จะรีบอะไรนักหนาเนี่ยต้อม" ออยพูดด้วยน้ำเสียงที่มีอารมณ์โมโหใส่ต้อม

     "ถ้าไม่รีบ เดี๋ยวก็ไปสายหรอกครับพี่" ต้อมตอบกลับ พร้อมกับรีบเดินไปที่ป้ายรถเมล์

     "โอย สายนิดๆหน่อยๆ อย่าซีเรียสน่า คนอื่นเค้าก็เข้าสายกันเยอะแยะ" ออยรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทางที่เร่งรีบของต้อมอย่างมาก

     "ก็คิดกันซะแบบนี้ไง ความเป็นระเบียบมันเลยไม่มีกัน เราชอบชื่นชมชาติอื่นๆว่าเป็นระเบียบ ตรงต่อเวลากัน แต่เราก็แค่ชื่นชมไม่ได้ทำตาม แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับ"ต้อมยังคงเดินอย่างเร่งรีบ แต่เพราะด้วยคำพูดที่เหมือนตบหน้าออยอีกครั้ง ทำให้ออยก็เร่งฝีเท้าด้วยอีกคน

     "โอ้ วันนี้ออยมาเช้าแฮะ เป็นไปได้ยังไงเนี่ย เดี๋ยวฝนจะตกมั้ยล่ะเนี่ย" หนุ่ยทักทายออยที่มาถึงที่ทำงานเช้าผิดปกติ เพราะปกติแล้วออยจะค่อนข้างเข้างานสาย อาจจะสายประมาณ 5-10 นาที ก็แล้วแต่อารมณ์ของเธอ

     "จะมีอะไรซะอีกล่ะ ก็เจ้าต้อมน่ะสิ ลากให้มาทำงานเช้าเนี่ย แต่ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปหนุ่ยคอยดูออยนะ ออยจะมาเช้าทุกวันเลย" หลังจากที่โดนต้อมพูดเหมือนตบหน้าเมื่อเช้านี้ ทำให้ออยจะปรับปรุงตัวเอง ให้เหมือนที่ตัวเองเคยชื่นชมคนที่ประเทศญี่ปุ่น ว่าเค้ามีระเบียบและความรับผิดชอบดีมากๆนั่นเอง

     "ปะ ต้อม ไปกินข้าวกัน ใกล้เที่ยงละ" หนุ่ยมาชวนต้อมออกไปกินข้าวเหมือนวันแรก

     "มันแค่ใกล้เที่ยงนะครับพี่หนุ่ย มันยังไม่เที่ยงเลย กฎระเบียบของเราบอกว่า เวลาพักเที่ยงคือ เที่ยงตรง ถึง บ่ายโมงตรงนะครับ พี่รออีกนิดให้ตรงตามกฏระเบียบจะดีกว่ามั้ยครับ" ต้อมพูดจบก็มองหน้าพี่หนุ่ย

     "เออๆ ก็ได้ รอเที่ยงตรง" หนุ่ยเหมือนโดนมนต์สะกดไม่โต้เถียงอะไรต้อมเลยสักคำ แถมยังทำตามอีกต่างหาก ส่วนคนอื่นๆที่เห็นหนุ่ยโดนพูดใส่ขนาดนั้น ก็ยอมรอเที่ยงด้วยอีกเหมือนกัน

     เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้ว ที่ต้อมเข้ามาทำงานที่บริษัทแห่งนี้ ต้อมปรับตัวเข้ากับทุกคนในแผนกได้ดีมาก จนหัวหน้าแผนกได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สาวสวยประจำแผนกมาทำงานแบบไม่สายเลยตลอดสัปดาห์ กลุ่มสามหนุ่มสามมุมที่มีหนุ่ยเป็นแกนนำก็พักเที่ยงตรงเวลามากขึ้น ไหนจะงานที่ลูกน้องเอามาส่งมันดูสมบูรณ์กว่าทุกๆทีที่ผ่านมาอีก จนหัวหน้าเกิดความสงสัยอย่างมากว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็คิดว่าดีแล้วล่ะ เลยไม่ได้เข้าไปสอบถามลูกน้องของตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น

     "คนนั้นใครเหรอครับพี่หนุ่ย" ต้อมถามพี่หนุ่ย ถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวไม่เหมือนใครในบริษัท แต่เธอก็เดินไปเดินมาในบริษัทได้ โดยไม่มีใครว่าอะไร

     "อ่อ น้องเบล แผนกจัดซื้อน่ะ น้องแกไม่ค่อยใส่ชุดฟอร์มของบริษัทหรอก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน พี่ไม่สนิท" หนุ่ยบอกกับต้อม ด้วยสีหน้าสงสัย

     "แน่ะๆ อะไรเบลๆ ได้ยินนะ" ออยเข้ามาร่วมแจม หลังจากที่ได้ยินสองหนุ่มคุยกัน หนุ่ยอธิบายให้ออยฟังว่าต้อมแค่สงสัยว่าคนๆนั้นเป็นใครแค่นั้นเอง

     "ต้อม พี่สนิทกับเบลอยู่นะ อยากคุยด้วยเหรอ" ออยเสนอตัวเข้าช่วยเหลือ

     "ครับ ผมแค่รู้สึกว่าเค้ามีอะไรน่าสนใจนิดหน่อยน่ะครับ" ต้อมตอบกับพี่ออย แต่สายตาจ้องเขม็งไปที่เบล โดยที่เบลนั้นไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกจ้องอยู่

     หลังจากถึงเวลาพักเที่ยง คนที่กินข้าวเสร็จแล้วต่างก็กลับเข้ามาพักผ่อนในบริษัท บ้างก็เล่นอินเตอร์เน็ต บ้างก็เล่นเกม บ้างก็งีบหลับ เป็นแบบนี้อยู่เป็นประจำ จนในวันนี้ที่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

     'กลิ่นหมูปิ้งแน่ๆ ของใครกันล่ะเนี่ย' หลังจากที่ต้อมออกไปกินข้าวเสร็จ แล้วกลับเข้ามาในบริษัท ต้อมก็ได้กลิ่นที่ไม่ควรได้กลิ่นในนี้ ต้อมคิดในใจสงสัยว่าใครกันนะที่กินหมูปิ้งในบริษัท

     "พี่ศักดิ์ใช่มั้ยครับ ที่กินหมูปิ้งที่โต๊ะทำงานเมื่อกี้นี้" ต้อมเดินตามหาที่มาของกลิ่นแถวๆที่โต๊ะทำงานแล้ว แต่ก็ไม่เจอ เขาเลยเข้ามาที่ห้องครัวของบริษัท แล้วก็ได้เจอกับพี่ศักดิ์ที่กำลังล้างมืออยู่พอดี

     "ใช่ ทำไมเหรอ" พี่ศักดิ์ล้างมือจนเสร็จ แล้วก็หันมาคุยกับต้อม

     "คือ..ผมว่าพี่ศักดิ์ไม่ควรกินอาหารที่มีกลิ่นแรงในบริษัทนะครับ เพราะมันจะรบกวนคนอื่นนะครับ" ต้อมพูดไปยิ้มไป แต่ในใจนั้นกลัวพี่ศักดิ์มาก เพราะพี่ศักดิ์ดูน่ากลัวกว่าทุกๆคนในบริษัทที่เขารู้จัก

     "ก็ได้ พอดีวันนี้พี่ซื้อหมูปิ้งตอนเช้า กะว่าจะกินระหว่างทางที่เดินมาทำงาน แต่บังเอิญเจอร้านข้าวแกงทำอาหารถูกใจก็เลยแวะกิน หมูปิ้งก็เลยเอามากินตอนเที่ยง แล้วพี่ขี้เกียจออกไปกินข้างนอก ก็เลยกินมันที่โต๊ะไปด้วย เล่นอินเตอร์เน็ตไปด้วย โทษทีละกัน" พี่ศักดิ์ทำหน้าไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่ได้จะหาเรื่องอะไรต้อม

     "ขอบคุณ แล้วก็ขอโทษพี่ศักดิ์ด้วยนะครับ ที่ผมทำแบบนี้" ต้อมยิ้มสู้พี่ศักดิ์ จนพี่ศักดิ์ยิ้มตอบ แล้วเดินมาตบไหล่ต้อมเบาๆ "ไม่เป็นไร" แล้วก็เดินออกจากห้องครัวไป

     เวลาผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ รวมเป็นสองสัปดาห์แล้วที่ต้อมเข้ามาทำงานที่บริษัทแห่งนี้ ต้อมได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับคนในบริษัทหลายคนทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะยอมรับ และเปลี่ยนแปลงตามที่ต้อมได้ทำเป็นตัวอย่าง และบอกกล่าว

     "ต้อม แกไปทำอะไรให้พี่ศักดิ์ไม่พอใจรึเปล่า ทำไมพี่ศักดิ์เค้าดูเหมือนไม่ค่อยชอบหน้าแกเลย" หนุ่ยถามด้วยความสงสัย

     "วันนั้นพี่จำได้มั้ย วันที่มีกลิ่นหมูปิ้งในบริษัทตอนพักเที่ยงน่ะ ผมรู้ว่าพี่ศักดิ์เป็นคนกินหมูปิ้งในบริษัท ผมก็เลยไปพูดอะไรกับเค้านิดหน่อยน่ะครับ" ต้อมก้มหน้าก้มตา ทำหน้าเศร้า

     "ซวยละต้อมเอ้ย ดันไปมีเรื่องกับขาใหญ่" หนุ่ยเครียดแทนต้อม

     "เฮ้ยๆ นั่นน้องเบลใช่รึเปล่าน่ะ โห ใส่ชุดฟอร์มบริษัทแล้วน่ามองดีเนอะ" ยังไม่ทันที่ต้อมกับหนุ่ยจะหายเครียดเรื่องพี่ศักดิ์ อยู่ๆเอกก็สะกิดให้ทั้งสองคนดูน้องเบลในชุดฟอร์มของบริษัท

     "เออเนอะ น่ามองจริงๆด้วย ดูดีกว่าตอนใส่ชุดนอกมาทำงานอีก ว่าแต่ต้อมทำยังไงน่ะ" หนุ่ยเสริมคำพูดของเอก แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าต้อมไปพูดอะไรให้น้องเบล ทำไมน้องเบลถึงยอมใส่ชุดฟอร์มบริษัทได้

     "ผมได้คุยกับน้องเค้านิดหน่อยครับ น้องเค้าบ่นๆว่ามีแต่คนชอบจับผิดเค้า ผมก็เลยบอกน้องเค้าไปแค่ว่า ถ้าไม่อยากถูกจับผิด อย่าคิดนอกใจฟอร์ม แค่นั่นแหละครับ" ต้อมตอบคำถามพี่หนุ่ย

     "ทั้งบริษัท ทั้งพนักงานดีขึ้นมากเลย ขอบใจเธอมากนะต้อม ที่เธอใช้ความซื่อตรงของเธอเปลี่ยนแปลงความคิด และจิตสำนึกของพนักงานในบริษัทได้หลายคนจนมันกลายเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนอื่นๆได้เห็น และทำตาม แต่...ผมก็มีข่าวร้ายบอกกับคุณเหมือนกัน" หัวหน้าของต้อมเรียกต้อมเข้าไปคุย หลังจากที่เขาทดลองงานครบสามเดือนตามข้อตกลงแล้ว เขารู้ตัวดีว่าผลงานของเขาออกมาดี แต่เขาก็ใช้เวลาทำงานแต่ละชิ้นนานเกินไป หลายๆครั้งที่เขาส่งงานไม่ทันจนโดนตำหนิ และเมื่อหัวหน้าพูดเกริ่นมาแบบนี้ ทำให้เขารู้ได้เลยว่า เขาไม่ผ่านการทดลองงานแน่นอน เขาพยายามฝืนยิ้ม แล้วก็ตั้งใจฟังหัวหน้าให้จบ

     "เราคงจะได้เจอกันอีกแค่สองวันนะ" หัวหน้าทำหน้าเศร้า พูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกเสียดาย ต้อมเองก็เศร้าไม่แพ้กัน

     "เพราะว่าตอนนี้ทางสาขาเชียงใหม่คนไม่พอ เค้าเลยขอยืมคนที่สาขานี้ไปก่อน ถ้าเค้าได้คนใหม่เมื่อไหร่ เค้าก็จะส่งตัวเธอกลับมานะ" หัวหน้าพูดจบก็ทำหน้าสะใจมาก ที่หลอกลูกน้องตัวเองได้สำเร็จ ตอนนี้ต้อมได้แต่อ้าปากค้าง ไม่คิดว่าหัวหน้าจะหลอกกันได้ลงคอ

     "ไปอยู่ที่สาขาเชียงใหม่น่ะ ก็ไปเปลี่ยนแปลงพนักงานทางโน้นบ้างนะ บริษัทเราจะได้ดูดีขึ้นในสายตาคนนอก ผมได้ยินหัวหน้าทางโน้นบ่นมาเหมือนกันว่าพนักงานดื้อกันพอตัวเลยล่ะ" หลังจากที่หัวหน้าแกล้งหลอกต้อมได้สำเร็จ ก็ฝากถึงภาระกิจลับที่อยากให้ต้อมช่วยไปเปลี่ยนแปลงความคิด และจิตสำนึกของพนักงานที่สาขาเชียงใหม่ด้วย

     "ครับ" ต้อมรับปากว่าจะทำงานหลัก และภารกิจลับให้ลุล่วงตามที่หัวหน้าได้มอบหมายอย่างมั่นใจ

     ในวันที่ต้อมต้องขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองก็มีสองคู่รักไปส่ง นั่นก็คือ หนุ่ยกับออย และเอกกับน้องเบล คู่ของหนุ่ยกับออยสามารถปิ๊งรักกันได้ก็เพราะว่า ออยมาทำงานเช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หนุ่ยก็มาทำงานแล้วพอดี ทำให้ทั้งสองคนมีโอกาสได้พูดคุยกันก่อนทำงานมากขึ้น ยิ่งช่วงเวลาเช้าๆ สมองปลอดโปร่ง บรรยากาศก็กำลังดี ความรู้สึกของทั้งสองคนก็เลยยิ่งเพิ่มพูนได้ง่าย บวกกับที่ทั้งสองคนเป็นพี่เลี้ยงให้กับต้อมด้วย ก็เลยยิ่งทำให้ทั้งคู่สนิทติดกันเป็นปาท่องโก๋เลยทีเดียว

     ทางด้านเอกกับน้องเบล หากน้องเบลไม่ใส่ชุดฟอร์มบริษัท เอกก็คงจะไม่ได้เห็นความงดงามในตัวของน้องเบลแน่นอน ต้องขอบคุณต้อมที่ทำให้น้องเบลใส่ชุดฟอร์มบริษัทได้สำเร็จ

     "ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าผมจะสร้างคู่รักขึ้นมาในบริษัทได้ถึงสองคู่รวดแบบนี้" ต้อมพูดไปก็มองหน้าทั้ง 4 คนด้วยรอยยิ้มไปด้วย

     "แต่เอาจริงๆนะครับ จริงๆผมก็เล็งทั้งพี่ออย ทั้งน้องเบลไว้แหละ แต่บังเอิญผมยังไม่ได้ลงมือน่ะ ไว้ถ้าผมกลับมาจากเชียงใหม่เมื่อไหร่ พี่หนุ่ยกับพี่เอกก็ระวังแฟนพี่ไว้ให้ดีนะครับ" ต้อมพูดจบก็หัวเราะ แล้วก็หันหลังวิ่งหนีพี่หนุ่ยกับพี่เอกที่กำลังไล่เตะก้นเขาอยู่ จนเข้าประตูไปขึ้นเครื่อง

     "ต้อมไม่ทำแบบนั้นหรอก คนซื่อตรง รักความถูกต้อง แล้วก็มีจิตสำนึกที่ดีแบบต้อม ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน" ออยพูดกับน้องเบล ที่กำลังยืนขำที่พี่หนุ่ยกับพี่เอกไล่เตะก้นต้อมไปจนถึงทางเข้าประตูไปขึ้นเครื่อง

ความคิดเห็น