เมื่อมีหน้าบ้าน...ก็ต้องมีหลังบ้าน (ภาค 2)
มาต่อกับหลังบ้านของผมในภาค 2 กันนะครับ ภาคนี้จะพูดถึงอาชีพในฝัน แน่นอนว่าตั้งแต่เด็กจนโต ทุกคนย่อมมีอาชีพในฝันที่อยากจะทำ แต่จะมีสักกี่คนครับ ที่ได้ทำตามฝันจริงๆ (จริงๆก็น่าจะเยอะนะ) ผมยินดีนะครับ กับคนที่ได้ทำอาชีพในฝัน พวกเขาคงมีความสุขมากๆ ที่ได้เติมเต็มความฝัน ส่วนคนที่ไม่ได้ทำอาชีพในฝัน (รวมถึงผมด้วย) ก็คงต้องทำหน้าที่ตามอาชีพปัจจุบันให้ดีที่สุดกันต่อไป เพื่อว่าสักวันหนึ่ง เราจะได้มีโอกาสทำอาชีพในฝันสักที (บางคนเลิกฝันไปละ มุ่งสู่อาชีพใหม่ที่ดีกว่าไปแล้วก็มี)
อาชีพในฝันของผมขอนับถึงแค่เรียนจบ ป.ตรี นะครับ เพราะถ้านับเอาตอนนี้ด้วย คงจะไม่ใช่อาชีพในฝันแล้วล่ะครับ มันคงเป็นความเพ้อฝันซะมากกว่า ตั้งแต่จำความได้อาชีพในฝันของผมมีแค่ 4 อาชีพเท่านั้น อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง งั้นก็เริ่มกันเลยกับอาชีพแรก...
ข้าราชการ ถือเป็นอาชีพแรกสุดเลยที่ผมอยากจะทำ สาเหตุก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ก็เพราะพ่อเป็นข้าราชการนั่นเอง มันก็คงจะซึมซับเข้ามาจนผมอยากทำอาชีพนี้ เวลาพ่อไปทำงานนะ จะทำงานแบบชิวๆ สบายๆ ตกเย็นมีกินเลี้ยง มีไปเที่ยวกัน ตอนนั้นยังเด็กอยู่เนอะ ผมก็รู้สึกว่า เฮ้ย อาชีพนี้ดีจริง ทำงานสบายมากเลยถ้าเทียบกับอาชีพอื่นๆ เช่น พนักงานบริษัท เปิดร้านขายอาหาร ขายโน้น นี่ นั่น ฯลฯ (อาชีพทั้งหลาย ดูมาจากละครทั้งน้านนนน) อารมณ์ตอนนั้นก็เลย ปิ๊ง อาชีพข้าราชการเข้าเต็มๆ
แต่พอวันเวลาผ่านไป โตขึ้นก็ได้เห็นว่า อาชีพข้าราชการมันช่าง...แสนสบายก็จริง แต่เงินได้น้อย แม้จะมีสวัสดิการ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่พอ พอเกษียณแล้ว มีเงินบำเหน็จบำนาญก็จริง แต่เราจะอยู่ถึงเหรอ และสุดท้าย กว่าจะได้เข้าเป็นข้าราชการ สอบยากไม่ใช่เล่น บทสรุปอาชีพข้าราชการก็เลยถูกพับเก็บจากความฝันไปครับ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าอาชีพข้าราชการไม่ดีนะครับ อาชีพข้าราชการถือว่าดีมากๆอาชีพหนึ่งเลย เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตแบบมีสติ มีแบบแผน ไม่ฟุ่มเฟือย ข้อดีของอาชีพข้าราชการมีเยอะนะครับ เพียงแต่ว่าผมไม่ได้อยู่ในจุดนั้น ผมเลยไม่กล้าที่จะเขียนถึง กลัวข้อมูลจะผิดครับ (แฟนผมก็ทำงานข้าราชการนะครับ แต่เป็นแบบลูกจ้างรายปี ไม่ได้บรรจุ)
อาชีพที่สองที่จะพูดถึง อาจจะฟังดูแบบ...มึงบ้ารึเปล่าก็ได้นะครับ เพราะอาชีพที่ผมอยากทำก็คือ คนสวนครับ (คนสวน ไม่ใช่ชาวสวนนะครับ) เอ้าๆ อึ้งเลยสิครับ มันมีที่มาครับ พ่อผมนอกจากจะเป็นข้าราชการแล้ว ยังเป็นเกษตกรด้วย พ่อทำสวนลำไยครับ แน่นอนว่าผมก็ต้องได้ซึมซับข้อมูลการทำสวนมาด้วย แต่...ผมไม่ได้อยากเป็นชาวสวน ผมอยากเป็นแค่คนสวน ที่ดูแลต้นไม้ให้กับบริษัท หรือบ้านใครก็ได้ครับ (แหวกแนว แหกกฎชาวสวนกันไปเลย) ผมอยู่กับสวนลำไยมานานพอสมควร ผมเลยชอบธรรมชาติครับ แต่ผมก็ไม่ได้ชอบเป็นชาวสวน ที่ต้องปลูกผลไม้ขาย เพื่อหาผลกำไร ผมต้องการแค่ได้อยู่กับธรรมชาติก็พอแล้ว ความคิดการอยากทำอาชีพคนสวนเลยเกิดขึ้น
ยิ่งได้ดูละครที่มีบ้านหลังใหญ่ มีสวนหน้าบ้าน ปลูกต้นไม้ แล้วมีคนสวนคอยดูแลนะครับ ผมดูแล้วยิ่งอยากทำอาชีพคนสวนครับ เพราะมันดูแบบ...วันๆไม่ต้องทำอะไรมาก ดูแลแต่สวน ต้นไม้ก็พอ (ยิ่งถ้าเจ้าของบ้านมีลูกสาวสวยๆนะ อืม...ปล้ำทำเมียมันซะเลย เฮ้ย ไม่ใช่ละ ฮ่าาา) ได้ดูพวกรายการที่พาไปดูบ้านจัดสรร รีสอร์ท ที่ต้องมีคนสวนช่วยดูแลด้วยแล้ว ยิ่งชอบเลยครับ แต่บทสรุปสุดท้ายก็คือ ลองไปทำดูสิ พ่อได้ด่าให้ อาชีพนี้ก็เลยต้องพับเก็บไปจนได้
อาชีพที่สามนั้น ผมคิดต่อยอดมาจากอาชีพที่สองครับ อาชีพนั้นก็คือ ออกแบบสวน จัดสวน และดูแลสวนครับ เป็นเหมือนกับการเปิดบริษัทรับเหมาออกแบบสวนนั้นเอง แต่จริงๆมันทำคนเดียวได้ครับ เพราะทุกอย่างอยู่ในหัวสมอง เราทำหน้าที่แค่ออกแบบสวน เลือกพันธุ์ไม้ สั่งซื้อ จัดสวน แล้วก็ดูแลสวนหลังการจัดเท่านั้น ส่วนแรงงานก็ให้ทางเจ้าของบ้านเป็นคนจัดการให้ แต่ว่าถ้าจะให้ดี เปิดเป็นบริษัทแล้วมีคนงานของตัวเองน่าจะดีกว่านะครับ แบบครบวงจรไปเลย คนน่าจะชอบกว่า
ผมเคยมุ่งมั่นกับอาชีพนี้มาก ศึกษาวิธีจัดสวนตามหนังสือต่างๆ โดยเฉพาะหนังสือบ้านและสวน สวนมีมากมายหลายแบบกว่าที่คิด สวนบนดินปกติ สวนแนวตั้ง สวนลอยฟ้า สวนน้ำ ฯลฯ การจัดวางแผนผังของเนินดิน ทางเดิน สระน้ำ ต้นไม้ ฯลฯ อีกเยอะครับรายละเอียดของการจัดสวน ถึงขนาดที่ว่า ต้นไม้ที่มีกลิ่นแรงมาก ก็ไม่ควรอยู่เหนือลม เพราะจะทำให้คนในบ้านเวียนหัวเพราะ กลิ่นได้ (ออกแบบสวน ต้องดูทิศทางลมด้วยนะ) ต้นไม้ต้นใหญ่ที่มีใบบังแสงได้ดี ก็ควรใช้บังแดดช่วงบ่าย แต่ก็ไม่ควรบังจนทึบ เพราะถ้าตกเย็น แสงจะน้อย และทำให้ภายในบ้านมืดเร็วเกินไป (ออกแบบสวน ต้องดูทิศตะวันออก ตะวันตกด้วยนะ)
พันธุ์ไม้ก็ต้องศึกษานะครับ ว่าต้นไม้อะไรทนต่อแสงแดดจัดได้บ้าง ทนต่อปริมาณน้ำได้มากแค่ไหน ชนิดไหนคือ ไม้ใบ ไม้ดอก การจัดวางพันธุ์ไม้ให้เป็นแนวกำแพง ก็ต้องดูด้วยว่า ต้นไหนควรอยู่หน้า ต้นไหนควรอยู่หลัง ไม้ดอกเอาไว้กับไม้ใบได้หรือไม่ (ยิ่งเขียนยิ่งรื้อฟื้น ยิ่งเขียนมันส์แฮะ) มีต้นไม้อยู่ชนิดหนึ่งที่ผมจำได้ขึ้นใจเลยว่า ถ้าไม่มีสนามหญ้ากว้างๆ หรือที่โล่งกว้าง เป็นไปได้อย่าปลูกเด็ดขาด นั่นก็คือ ต้นไผ่ สาเหตุก็เพราะว่า ต้นไผ่พอถึงฤดูใบไม้ร่วง ใบมันจะร่วงจนกองเต็มพื้นที่เลย แล้วถ้าเป็นสนามหญ้ากว้างๆ หรือที่โล่งกว้างๆ การเก็บกวาดก็จะง่าย แต่ถ้ามันใบมันร่วงตามพื้นที่สวน พื้นที่แคบๆ ต้นไม้แน่นๆ หรือที่อื่นๆตามซอก ตามมุม มันก็จะดูแลยาก จากสวนที่สวยๆ ก็จะดูรก และสกปรกทันที (จำไม่ได้ว่าหนังสืออะไร เพราะนานมากแล้ว) ข้อดีของต้นไผ่ คือ บังลม บังแดด เวลาลมพัดใบมันสีกัน มันจะฟังแล้วผ่อนคลาย แต่สุดท้ายก็ต้องพับอาชีพนี้เก็บ เพราะไม่มีทุนไปเริ่มทำน่ะสิครับ จะให้ไปกู้มาทำก็คงไม่ไหว เพราะมันมีเหตุผลบางอย่างกั้นขวางอยู่ครับ
อาชีพสุดท้ายที่เคยฝันไว้ แล้วเข้าไปใกล้ได้มากที่สุดก็คือ เปิดร้านเช่าหนังสือครับ ด้วยความที่รักการอ่าน และการเขียน ทำให้ได้รู้จักธุรกิจร้านเช่าหนังสือ เคยฝันไว้ว่า เปิดร้านเช่าหนังสือไปด้วย เขียนเรื่องสั้น แล้วทำรูปเล่มเอาไปวางให้เช่าด้วย มันช่างเป็นฝันที่มีความสุขซะจริงๆ อาชีพนี้ฝันไว้เมื่อตอนเรียนใกล้จะจบ ป.ตรี พอจบมาก็หางานทำ หาทุนก่อน จนเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน (ประมาณปี 2554 .. หาทุนนานมาก) ผมมีทุนพอที่จะเปิดร้านจนได้ ผมค้นหาผู้ให้บริการเปิดร้านเช่าหนังสือดู ตอนนั้นลงทุนประมาณ 75,000 บาท ก็ได้ร้านที่มีหนังสือครบเลย
ผมวางแผนไว้ดิบดีเลยครับ มองหาทำเลเปิดร้าน สอบถามราคาค่าเช่าตึก จนได้ที่ที่คิดว่าน่าจะเหมาะแล้ว (ถึงขนาดประกาศตามหาคนเช่าพื้นที่หน้าร้านเปิดร้านกาแฟ แล้วก็มีคนสนใจแล้วด้วย) ตอนนั้นผมพร้อมทุกอย่าง คิดว่าพอเริ่มเดินเครื่องปุ๊บ ไม่เกิน 1 เดือน อาชีพในฝันของผมก็ต้องได้ทำแน่ๆ แต่แล้ว...ความฝันของผมก็พังลง เฮ้อ...ไม่ขอบอกกล่าวนะครับว่าเพราะอะไร ทีแรกที่ความฝันพังลง ผมก็ยังไม่ยอมแพ้นะครับ ผมยังพยายามเก็บเงินใหม่อีกรอบ แต่จนแล้วจนรอด จากเหตุการณ์ในวันนั้น มันก็ยังมีผลมาจนถึงวันนี้ ทำให้ผมเริ่มจะต้องพับเก็บอาชีพในฝันไปแล้วล่ะครับ
เป็นยังไงบ้างครับ 4 อาชีพในฝันของผม จะเหมือนของใครบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้นะครับ แม้ว่าจะไม่ได้ทำอาชีพในฝันที่เคยฝันไว้ แต่อาชีพที่ผมทำอยู่ตอนนี้มันก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะครับ ผมยังหวังว่าสักวันหนึ่ง ผมคงจะได้มีโอกาสได้ทำอาชีพในฝันสักอาชีพสิน่า
บทความภาคอาชีพในฝันก็จบลงแต่เพียงเท่านี้นะครับ แล้วพบกันใหม่ในตอนที่ 98 กับภาคความรักครับ มาดูกันว่า ผมเคยมีแฟนมาแล้วกี่คน...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น