รับจ้างทำการบ้าน
ประเด็นดังประเด็นหนึ่งในช่วงนี้ ที่ต้องยกพื้นที่ให้กับประเด็นนี้บ้างเล็กน้อย สื่อหลายสำนัก และนักวิชาการหลายท่านได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุกันมากมาย ว่าเพราะอะไร ทำไมธุรกิจรับจ้างทำการบ้านถึงเกิดขึ้น และเติบโตได้เพียงนี้
ผมมองถึงสาเหตุได้ 3 ข้อดังนี้ครับ
ข้อแรก ก็ตัวการบ้านนั่นแหละครับ หลายๆคนมองว่า การบ้านที่ให้เด็กทำนั้นมัน "ยาก มาก ล้น" ผมนึกตามแล้วก็เถียงไม่ได้เลย เพราะผมก็เคยผ่านมันมาแล้ว สอนอย่างหนึ่ง แต่ให้การบ้านอีกอย่างหนึ่ง ถึงจะบอกว่ามันก็แนวๆนี่แหละ เอาไปประยุกต์ใช้เอาสิ แต่เด็กมันก็ฉลาดไม่เท่ากัน และไม่เท่าครู "ความยาก" จึงเกิดขึ้น แล้วก็ทำไม่ได้ในที่สุด
บางวันเรียน 3-4 วิชา แล้วครูก็สั่งการบ้านแบบประมาณว่า เทอมนี้น่ะ เธอเรียนแค่วิชานี้วิชาเดียว เอาการบ้านไปเต็มๆ ทำกันให้สนุกเลยนะจ๊ะ แหม...ก็ครูคิดซะแบบนี้กันสัก 4 วิชารวด "ความมาก" มันก็เกิดขึ้นสิครับ
นอกจากการบ้านแล้ว ยังมีรายงาน เรียงความ หรือคัดลอกจากการค้นคว้าอีกนะ เมื่อเอาทั้งหลายทั้งมวลมารวมกัน อืม...มันก็คือ "การล้น" ไงล่ะครับ พอล้นแล้วทำยังไงล่ะ ก็มีสองทางออกคือ ยอมให้ครูทำโทษตามแต่จะลงโทษ เพราะทำไม่ทัน ทำไม่ได้ หรือไม่ได้ทำ กับจ้างทำการบ้าน รายงาน ฯลฯ ไงล่ะครับ
ข้อที่สอง ที่จะขอมองว่าเป็นสาเหตุก็คือ เรื่องเวลาครับ เด็กไทยใช้เวลาในการเรียนมากเกินไปครับ ในระดับ ป.1 ถึง ม.6 ใช้เวลามากเกินไปจริงๆนะครับ คิดดูสิครับ เริ่มเรียน 8 โมงเช้า เลิกเรียน 3-4 โมงเย็น คุ้นๆมั้ยครับว่า มันเหมือนเวลาทำงานของข้าราชการเลย
แล้วถามว่า เวลาตอนเย็นๆ ดึกๆ ผู้ใหญ่วัยทำงานทำอะไรหลังจากเลิกงานอยู่บ้าน...ถูกครับ พักผ่อนไงครับ กินข้าว ดูหนัง ดูละคร เล่นเกม บ้างก็ไปเที่ยว บางคนก็นอนมันตั้งแต่ 2 ทุ่มก็มี แล้วเด็กๆล่ะครับ เลิกเรียนมา ตอนอยู่บ้านทำอะไร การบ้านเอย รายงายเอย เด็กไม่ได้พักจากการเรียนเลยนะครับ เจอแบบนี้เด็กก็เหนื่อยนะครับ หนีไปจ้างทำการบ้านซะเลย เพราะอยากพักสมองบ้าง
ถ้าการบ้านไม่มาก ทำแค่ 1-2 ชั่วโมงเสร็จล่ะ เด็กก็น่าจะมีเวลาทำตอนเลิกเรียนอยู่บ้านนี่ ... มันก็ใช่นะครับ แต่เด็กก็อยากได้เวลาพักผ่อนนะครับ กลับมาบ้าน เล่นกีฬา อยู่กับคนในบ้าน ดูละครนิดหน่อย เล่นเกมนิดหนึ่งก็ยังดี ไม่ใช่ต้องใช้สมองไปกับการเรียนเยอะขนาดนั้น สงสารเด็กบ้างก็ดี เวลาเรียนของเด็ก กับเวลาทำงานของผู้ใหญ่ แทบจะเท่ากัน แต่เลิกเรียนของเด็กยังมีการบ้าน ส่วนเลิกงานของผู้ใหญ่ได้พักผ่อน
ลดเวลาเรียนลง ให้เลิกเรียนสักบ่ายสองกำลังดีครับ แล้วให้เวลาเด็กอีก 2 ชั่วโมง ทำการบ้านอยู่ในโรงเรียนนั่นแหละ พอสี่โมงก็ค่อยปล่อยให้กลับบ้าน การบ้านก็น่าจะมีคุณภาพจากการที่เด็กๆช่วยกันทำการบ้าน พอเลิกเรียนกลับบ้าน เด็กก็จะได้พักผ่อน เด็กก็จะมีสุขภาพจิตที่ดี การเรียนก็น่าจะดีขึ้น การศึกษาไทยก็น่าจะดีขึ้นด้วย
ข้อที่สาม เทคโนโลยี ตัวการทำลายเด็ก การสื่อสารที่ทำให้โลกแคบลง ทำให้คนสนใจที่จะคุยกันผ่านเทคโนโลยีต่างๆมากขึ้น จนน่าจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความสนใจในการบ้านของเด็กๆลดลง อย่าว่าแต่เด็กเลยครับ ขนาดผู้ใหญ่อย่างเราๆ เทคโนโลยีพวกนี้ก็ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเราลดลงได้เหมือนกัน
โปรแกรมแชทต่างๆ ทำให้เด็กชอบคุยกัน แล้วพอได้คุยกันแล้ว ก็จะหยุดลำบาก หรืออาจจะเป็นแบบ ทำการบ้านไปด้วย แชทไปด้วย สมาธิก็จะไม่มี การบ้านก็ใช้เวลาทำนานขึ้น หรือถ้าทำเสร็จ ก็อาจจะจะไม่ได้คุณภาพ ก็ทำไงได้ล่ะ ก็มันอยากคุยนี่
เฟสบุ๊ค อันนี้ดึงความสนใจได้มากเลย ไล่ดูความเคลื่อนไหวของคนอื่น บางคนโพสรูป โพสข้อความไป แล้วก็รอคนอื่นกดไลค์ รอคนอื่นคอมเม้น ไม่มีสมาธิ ไม่มีจิตใจที่จะทำการบ้านเลย อยากอยู่หน้าเฟสนี่แหละ รอดูว่าใครจะมาโพสอะไร เราจะได้ไปกดไลค์ ไปคอมเม้น ก็เพราะแบบนี้แหละครับ การบ้านก็เลยโดนทิ้ง
เกมส์ อันนี้ก็ทีเด็ดเลย ใครติดเกมส์นี่เรื่องใหญ่เลย เพราะจะไม่เอาอะไรเลย เล่นแต่เกมส์ๆ อย่าว่าแต่การบ้านเลยครับ ขนาดข้าวมันยังไม่กิน น้ำมันก็ไม่อาบ
และเทคโนโลยีนี่แหละครับ ที่พาไปเจอ "รับจ้างทำการบ้าน" เป๊ะเลย จ้างซะเลย
"อยากแชท อยากเล่นเกม"
"ไม่มีเวลาทำ อยากพักผ่อน ทำอย่างอื่นบ้าง"
"ยาก มาก ล้น"
จ้างๆๆๆ แล้วเด็กไทยยุคใหม่ ก็ไม่เก่งเรื่องการเรียน แต่เก่งเรื่องอื่นๆแทน
ยังมีอีกหลายสาเหตุนะครับ ที่ทำให้เกิดธุรกิจรับจ้างทำการบ้านขึ้นมาได้ เช่น สาเหตุจากตัวครู อาจารย์ สาเหตุจากครอบครัวของเด็ก สาเหตุจากความฉลาดของเด็ก สาเหตุจากคนรับจ้างทำการบ้าน ฯลฯ
ไม่ว่าสาเหตุจะเกิดมาจากอะไร สิ่งสำคัญคือ เราต้องช่วยกันดูแล และพัฒนาการศึกษาไปด้วยกัน เพื่อลูกหลานของเรา จะได้นำพาประเทศเจริญก้าวหน้าต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น