ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 89 (บทความ) _ แบงค์ใหญ่



แบงค์ใหญ่

     แบงค์ใหญ่ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง ธนาคารใหญ่ๆนะครับ แต่ผมหมายถึง ธนบัตรที่มีมูลค่าสูงครับ แล้วธนบัตรที่มีมูลค่าสูงสุดก็คือ แบงค์ห้าหมื่น เฮ้ย ไม่ใช่ละ อันนั้นมันมีแต่ในเกมเศรษฐีที่ในอดีตเคยนั่งล้อมวงเล่นกันแล้ว ในชีวิตจริงๆ ธนบัตรที่มีมูลค่าสูงสุดก็คือ แบงค์พันนั่นเอง (หมายถึงแบงค์ที่กดได้ตามตู้ ATM นะครับ เพราะผมคุ้นๆว่า แบงค์ที่มีมูลค่าสูงกว่านี้ก็มี แต่ส่วนมากก็จะเก็บไว้ ไม่นำมาใช้กัน)

     ประเด็นในวันนี้ที่เกิดขึ้นทำให้ผมต้องมาเขียนก็คือว่า เพื่อนผมเขาขอให้เขียนเรื่องแบงค์ใหญ่ให้หน่อย (จริงๆจะให้เขียนเรื่องแบงค์พัน แต่ผมว่าแบงค์ห้าร้อยมันก็มีปัญหานะ เลยขอเป็นเรื่องแบงค์ใหญ่แทนละกัน)

     "ต้น เขียนเรื่องแบงค์พันหน่อยสิ" เพื่อนผมโชว์แบงค์พันให้ผมดู แล้วก็ขอให้เขียนบทความให้หน่อย

     "เขียนอะไรล่ะน่ะ" ผมสงสัย ก็ถามกลับไป

     "มันใช้ยาก เขียนบทความเลย" เพื่อนผมยังคงตั้งใจจะให้ผมเขียน

     หลังจากที่เพื่อนผมขอให้เขียนบทความแล้ว ผมก็งานเข้า ไม่ว่างเขียนเลย จนผ่านมาได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ก็ว่างเขียนสักที

     ผมเชื่อว่าหลายคนประสบปัญหามาก เวลามีแบงค์พัน หรือแบงค์ห้าร้อยอยู่ในมือตอนที่ไปซื้ออะไรสักอย่างในราคาที่ไม่สูงมากกับร้านค้าทั่วๆไป ที่ไม่ใช่เซเว่น หรือห้างใหญ่ๆ เพราะส่วนมากหลังจากยื่นแบงค์ใหญ่ไปแล้ว จะโดนตอบกลับมาว่า "ไม่มีแบงค์ย่อยเหรอ" หรือ "ไม่มีทอน" งานเข้าสิครับ รับของมาแล้ว แต่จ่ายตังค์ไม่ได้ วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามี 3 ทางคือ เราค้นแบงค์ย่อย หรือเศษตังค์จ่าย, เราไปหาแตกตังค์มาจ่าย และเจ้าของสินค้าไปหาแลกตังค์มาทอน

     ไม่ว่าบทสรุปจะเป็นข้อไหน แต่สุดท้ายแล้วเชื่อเลยว่า คนที่ได้ถือแบงค์ใหญ่ต่อ ก็จะปวดหัวต่อไปอีก ส่วนคนที่ได้แบงค์ย่อยก็สบายใจล่ะ ไปใช้จ่ายอะไรต่อก็ง่ายแล้ว

     คนส่วนมากเวลามีแบงค์ใหญ่อยู่ในมือ ก็จะต้องหาทางแตกให้มันเป็นแบงค์ย่อยซะก่อน โดยเชื่อเลยว่าไม่พ้นเซเว่น หรือห้างใหญ่ๆที่คาดว่าน่าจะมีตังค์ทอนแน่นอน แต่ก็มีบางครั้งนะครับที่ขนาดเซเว่นยังไม่มีทอน เพราะผมเคยเจอมาแล้วครับ เล่นเอางงเป็นไก่ตาแตกเลยครับ แต่พนักงานก็แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน โดยไปยืมตังค์เคาน์เตอร์ข้างๆมาทอนก่อน ผมนี่คิดไม่ออกเลยครับว่า ถ้าคิวต่อไปจ่ายแบงค์ใหญ่อีก พนักงานเซเว่นคนนั้นจะทำปวดหัวรึเปล่า

     ในเมื่อแบงค์ใหญ่มันเป็นปัญหาระดับชาติ (เวอร์ไปรึเปล่า) ทางธนาคารก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ทำการแก้ปัญหาที่ตู้ ATM ให้มีปุ่มกดถอน 200, 400, 900 ฯลฯ เพื่อให้ประชาชนได้หลีกเลี่ยงแบงค์ใหญ่ แต่เออ...มันใช่เหรอครับ ปุ่มกดถอนที่เลือกจำนวนเงินเองก็มี ไอ้ปุ่ม 200, 400, 900 ไม่ต้องก็ได้มั้งครับ หรือว่าผมมองประเด็นผิดไป จริงๆแล้วทางธนาคารไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงแบงค์ใหญ่ แต่แค่ให้มันถอดรวดเร็วขึ้นเท่านั้นถ้าผมเข้าใจผิด ผมก็ขอโทษด้วยนะครับ

     อะ ไหนๆก็มีปุ่ม 200, 400, 900 ฯลฯ มาให้กดละ ผมก็ใช้บริการสักหน่อย ว่าแล้วก็กดเลย 400 บาท กดเสร็จก็ก้มหน้าดูที่ช่องเงินออก เอ๊ะ...เงียบกริบ เสียงเครื่องไม่ดัง ตังค์ไม่ออก เงยหน้าดูจอใหม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เจอข้อความเตือนว่า ตู้นี้มีเฉพาะธนบัตรฉบับละ 500 และ 1,000 บาทเท่านั้น กรุณากดตามจำนวนที่ถอนได้ อ้าวเฮ้ย...พระเจ้าช่วยกล้วยทอด กูไม่อยากได้แบงค์ใหญ่ ว่าแล้วก็ต้องไปหาตู้อื่นกด หรือไม่ก็กดแบงค์ใหญ่มา แล้วไปแตกที่เซเว่นแก้ปัญหานี้ต่อไป

     ทำไมไม่มีใครคิดปุ่มเลือกแบงค์ไปเลยเนอะ กด 1,000 บาท เลือกแบงค์ 500 บาท 1 ฉบับ เลือกแบงค์ 100 บาท 5 ฉบับ หรือแบงค์ 100 บาท มัน 10 ฉบับไปเลย ผมว่าถ้ามีแบบนี้ประชาชนน่าจะมีความสุข ไม่ต้องกลัวว่า มีแบงค์ใหญ่ในมือแล้วไปซื้อราคาถูกลำบากใจ (หรือมีคนคิดแล้ว แต่มันทำยากก็ไม่รู้นะ)

     ในอนาคตก็ไม่แน่นะครับว่า ปุ่มเลือกแบงค์อย่างที่ผมว่าไปนั้น มันอาจจะมีจริงๆก็ได้ หรืออาจจะเป็นของใหม่แบบ 'ตู้แลกตังค์' ก็ได้นะครับ เอาแบงค์ใหญ่ไปแลกเป็นแบงค์ย่อย หรือเอาแบงค์ย่อยไปแลกเป็นแบงค์ใหญ่ เพราะบางคนไปจ่ายค่างวดรถ ค่างวดบ้าน หรือคนที่ต้องใช้เงินสดซื้อของแพงๆ จะให้พกแบงค์ร้อยไปจ่ายมันก็ดูแบบ...เงินเยอะเนอะ มีเป็นปึกๆเลย

     ออกจากเรื่องตู้ ATM มาสู่แบงค์ใหญ่ในมือกันดีกว่า ผมเคยไปกินข้าวที่ร้านข้าวข้างทางครับ ตอนกินก็คิดว่ามีแบงค์ร้อยอยู่ แต่ที่ไหนได้ล่ะ กินเสร็จจะจ่ายตังค์ เปิดกระเป๋าตังค์ดู เฮ้ย...แบงค์ร้อยหายไปไหน แหงนมองร่มใหญ่ๆของร้านข้าว (ร้านข้างทาง เป็นรถเข็น กางร่มใหญ่ๆ แล้วมีโต๊ะเรียงอยู่แค่ 3 โต๊ะเอง) สักแปปก็คิดออก เออ...เราจ่ายค่าหนังสือไปแล้วนี่หน่า ลืมซะสนิทเลย ทีนี้งานเข้าสิครับ เหลือแบงค์พันอยู่แบงค์เดียวทำไงดีล่ะ แถวนั้นไม่มีตู้ ATM ไม่มีเซเว่นซะด้วย จะจ่ายแบงค์พันเลยก็คงโดนบ่นแน่ๆ เพราะข้าวแค่ 40 บาท ทะลึ่งจ่ายแบงค์พัน นั่งคิดอยู่แบบนึง ก็ลุกไปจ่ายตังค์...แบงค์พันมันนั่นแหละครับ ก็แหม มันเหลืออยู่แบงค์เดียว จะให้ทำยังไงล่ะ

     "มีทอนมั้ยครับ" ผมชูแบงค์พันขึ้นให้แม่ค้าดูแบบหน้าตาใสซื่อ บริสุทธิ์ พยายามแอ๊บแบ๊วให้น่ารักที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผื่อว่าแม่ค้าจะเห็นหน้าแล้วไม่อยากบ่นใส่

     แม่ค้าไม่ตอบอะไร แต่ทำหน้าประมาณว่า...ไอ้นี่ กวน... แล้วก็หยิบเอาแบงค์พันในมือของผมไป ก่อนจะล้วงๆๆผ้ากันเปื้อน (รึเปล่า ที่แม่ค้าเขาใส่กันน่ะ เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้) แล้วก็เอาตังค์ออกมาทอนผม 960 บาทถ้วน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ร้านข้าวข้างทางแบบรถเข็น บางร้านก็เงินเยอะมิใช่เล่นเลยนะครับท่าน

     แบงค์ใหญ่มันดีนะครับ เวลาไปซื้อของที่มูลค่าเยอะๆ หรือไปซื้อของในห้าง ไปกินข้าวร้านหรูๆ แต่มันจะเป็นปัญหาระดับชาติทันที ถ้ามีแบงค์ใหญ่ แล้วต้องซื้อของที่มูลค่าน้อยๆ ที่ร้านขายของชำเล็กๆ หรือไปกินข้าวจานละแค่ 40 บาท

     แนวทางแก้ปัญหาที่เห็นได้ชัดคือ เวลากด ATM ก็กดเป็นแค่แบงค์ 100 ก็พอ แต่กดหลายๆครั้งหน่อย ถ้าโชคร้ายเจอตู้ที่มีแต่แบงค์ 500 และ 1,000 ก็กดแล้วไปเซเว่น ซื้อลูกอมสัก 10 บาท จ่ายแบงค์ 500 ให้พนักงานได้ด่าในใจเล่นๆก็แล้วกันครับ

     แบงค์ใหญ่เป็นปัญหาระดับชาติก็จริงอยู่ แต่ถ้ามีพกติดตัวไว้ ไปไหนก็อุ่นใจนะครับ ส่วนการที่ไม่มีสักแบงค์นี่สิ ปัญหาระดับชีวิตเลยนะครับ...แหม่

ความคิดเห็น