hostneverdie

weltrade

siamfocus

ตอนที่ 83 (บทความ) _ เอเชียนเกมส์ 2014



เอเชียนเกมส์ 2014

     เอเชียนเกมส์ 2014 หรือ อินชอนเกมส์ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ ผมอยากจะบอกว่า ผมไม่ได้ดูถ่ายทอดสดกีฬาอะไรเลยสักรายการเดียว ไม่ใช่ว่าไม่เชียร์นักกีฬาไทยนะครับ แต่เวลาแข่งขันมันดันแข่งตอนเวลาทำงานพอดี เลยไม่ได้ดูถ่ายทอดสดอะไรเลย ได้แตฟังวิทยุรายงานสดทาง FM 99 Sport Radio (ก็ยังดีเนอะ ที่ยังเชียร์ผ่านทางวิทยุ)

     บทสรุปของเจ้าเหรียญทองก็หนีไม่พ้น จีน อีกตามเคย ไม่รู้ว่าเพราะ พี่จีนเขาเก่ง หรือเพราะส่งนักกีฬาลงเยอะครบทุกชนิดกีฬากันแน่ ถึงได้กวาดเหรียญทองไปครองได้เยอะขนาดนั้น ส่วนเกาหลีน่ะเหรอ พยายาม (โกง) สุดความสามารถแล้ว ก็ได้อันดับสองไปครอง

     พูดถึงพี่ไทยของเรากันดีกว่า อินชอนเกมส์ครั้งนี้ คว้ามาได้ 12 ทอง 7 เงิน และ 28 ทองแดง รวมทั้งสิ้น 47 เหรียญ ยึดอันดับ 6 ในตาราง ได้สิทธิไปเตะยูโรป้าลีก (เฮ้ย ไม่ใช่ละ ป้าแกสิ มันใช่ซะที่ไหนล่ะ)

     12 เหรียญทอง มีอะไรบ้าง ผมขอนำมาบอกกล่าวกันอีกครั้งตรงนี้ก็แล้วกันนะครับ

     เหรียญแรก ได้มาจาก โบว์ลิ่ง (ประเภทบุคคลชาย) โดย "โจ้" ญาณพล ลาภอาภารัตน์ โยนตูมๆ เก็บแต้มสูงสุด คว้าแชมป์โลด

     เหรียญที่สอง ได้มาจาก เซปักตะกร้อ (ประเภททีมชุดหญิง) ขึ้นฟาดๆๆ เอาชนะเมียร์มาร์ ไป 2-0 ทีม ยึดเมืองคืน แล้วสร้างแลนด์มาร์กได้สำเร็จ (ไม่ใช่เกมเศรษฐี)

     เหรียญที่สาม ได้มาจาก ทีมกอล์ฟหญิง ประกอบด้วย "นุ๊ก" บุษบากร สุขพัณธ์, "ออม" เบญญาภา นิภัทร์โสภณ และ "กิ๊ฟ" สุภมาส แสงจันทร์ โดยทั้งสามคนช่วยกันตี โฮล อิน วัน ครบทุกหลุม คว้าแชมป์ไปเลยโดยไร้คู่แข่ง (โห ไม่ใช่ละไอ้บ้า มันทำได้ซะที่ไหนล่ะ โฮล อิน วัน ทุกหลุมเนี่ย มันไม่มี๊)

     เหรียญที่สี่ ได้มาจาก เซปักตะกร้อ (ประเภททีมชุดชาย) ขึ้นฟาดๆๆ เอาชนะเกาหลีใต้ ไป 2-0 ทีม ฟาดซะจนหาช่องโกงไม่ได้เลย น่าสงสารเนอะ

     เหรียญที่ห้า ได้มาจาก จักรยานถนน (ประเภทบุคคลหญิง) "บีซ" จุฑาธิป มณีพันธุ์ ปั่นสปีดเร็วกว่านรก พุ่งพรวดเข้าเส้นชัย คว้าแชมป์เลย (จะเอาฮาไปถึงไหน)

     เหรียญที่หก ได้มาจาก เทนนิส (ประเภทหญิงคู่) "แทมมี่" แทมมารีน ธนสุกาญจน์ และ "ลัก" ลักษิกา คำขำ หลังจากแพ้ไปก่อนในเซตแรก ก็ใช้ท่าไม้ตาย "ไทยแลนด์โซน" เอาชนะไต้หวันอีกสองเซตที่เหลือ 2-1 เซต คว้าแชมป์ได้สำเร็จ (A: ไทยแลนด์โซน มันเป็นยังไงวะ B: เอาน่า มันอยู่ที่จินตนาการล้วนๆ A: ไอ้นี่ท่าจะบ้าจริง)

     เหรียญที่เจ็ด ได้มาจาก เรือใบ (ประเภททเวนตี้ไนเนอร์) กีฬาประเภทนี้ไม่คุ้นจริงๆนะครับเนี่ย นพเก้า พูนพัฒน์ และ นิชาภา ไหวไว ช่วยกันคว้าแชมป์มาได้สำเร็จ

     เหรียญที่แปด ได้มาจาก เทควันโด (รุ่น 49 กก.หญิง) "เล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ เตะก้านคอคู่แข่ง สลบกลางอากาศ คว้าแชมป์เลย (เฮ้ย มันใช่ซะที่ไหนล่ะ น้องเขาชนะคะแนนคู่แข่งจากจีน 10-3 คว้าแชมป์ต่างหาก)

     เหรียญที่เก้า ได้มาจาก จักรยาน (BMX หญิง) "อแมนด้า คาร์" นักปั่นสาวไทย เชื้อสายอเมริกัน ปั่นนำม้วนเดียวจบ คว้าแชมป์สวยงาม และตอนนี้เธอกลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของกองเชียร์ชาวไทยไปแล้ว ด้วยความที่หน้าตาอเมริกัน แต่พูดอีสานได้คล่องมากๆนั่นเอง

     เหรียญที่สิบ ได้มาจาก เซปักตะกร้อ (ประเภททีมเดี่ยวหญิง) วิสาข์ จันทร์แก่น, มัสยา ดวงศรี และ เฟื่องฟ้า ประพัศรางค์  ระเบิดพลังแปลงร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่า (ไม่เชื่อไปดูหัวสิ หัวทองทุกคนเลย) ขึ้นฟาดๆๆ เอาชนะเกาหลีใต้ 2-0 เซต แชมป์โลดดดดด

     เหรียญที่สิบเอ็ด ได้มาจาก เซปักตะกร้อ (ประเภททีมเดี่ยวชาย) พรชัย เค้าแก้ว, สิทธิพงศ์ คำจันทร์ และ ภัทรพงศ์ ยุพดี (ทีมชายไม่แปลงร่างแฮะ) ขึ้นฟาดๆๆ เอาชนะเกาหลีใต้ 2-0 เซต แชมป์ตามคาด ได้ข่าวว่าเกาหลีแอบโกงด้วย แต่ก็สู้ไม่ได้อยู่ดี

     เหรียญที่สิบสอง ได้มาจาก มวยสากลสมัครเล่น (รุ่น 64 กิโลกรัมชาย) เหรียญนี้มีข่าวออกมาว่า ถ้าไม่มีคนใหญ่คนโตระดับประเทศเข้าไปชม เราอาจจะพลาดเหรียญก็ได้ ซึ่งอันนี้ผมก็ไม่รู้นะครับ ว่าจะมีผลจริงหรือไม่ เพราะจริงๆแล้ว เราก็ชกดีกว่านิดนึง แต่ก็นะ เกาหลีทำอะไรไว้เยอะ ถ้าไม่มีคนใหญ่คนโตเข้าไปชมจริงๆ เราก็อาจจะโดน...อีกก็ได้ "เอ็ม" วุฒิชัย มาสุข ต่อยๆ เตะๆ (เฮ้ย ไม่มีเตะ) เอาชนะเกาหลีใต้ไปได้ 2-1 เสียง คว้าเหรียญทองได้หวุดหวิด

     สำหรับเหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ผมไม่ขอเขียนนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่ให้ความสำคัญนะครับ แต่ว่ามันยากเกินไปนิดนึง ถ้าใครอยากรู้ว่าเหรียญเงิน และเหรียญทองแดงมีอะไรบ้าง ก็ถามกูเกิลได้เลยนะครับ

     พูดถึงเหรียญทองแดงกันสักเหรียญนะครับ เพราะเป็นเหรียญสำคัญ นั่นก็คือ เหรียญทองแดงจาก วอลเลย์บอลหญิงนั่นเอง เป็นเหรียญประวัติศาสตร์ของวอลเลย์บอล เพราะเป็นเหรียญรางวัลเหรียญแรกในเอเชียนเกมส์ ถึงแม้จะไม่ใช่เหรียญทอง แต่ก็ยิ่งใหญ่มากเลยทีเดียว

     ก่อนจบก็ขอพูดถึงกีฬาในดวงใจของผมสักหน่อย นั่นก็คือ ฟุตบอลนั่นเอง แม้จะเจอเจ้าภาพโกงหลี เอ้ย เกาหลี แสดงอิทธิฤทธิ์ สร้างลูกจุดโทษให้ตัวเอง และปฏิเสธจุดโทษของเรา จนทีมไทยหมดแรงใจที่จะสู้ต่อในนัดนั้น แล้วก็มาจบที่อันดับ 4 แพ้ความเฉียบคมของอิรักในนัดชิงเหรียญทองแดง แต่ฟุตบอลไทยก็เรียกศรัทธากลับคืนมาได้เยอะมาก เพราะเล่นได้ดี มีความขยันไล่บอลมากว่าแต่ก่อน คงต้องขอบคุณ "พี่ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ล่ะครับ ที่ทำได้ดีขนาดนี้ ทำให้ผมเชียร์ฟุตบอลไทยได้สนุกเหมือนเมื่อก่อนอีกครั้ง

     เอาล่ะครับ บทความนี้ยาวมากแล้ว ขอจบแต่เพียงเท่านี้ เจอกันใหม่อีก 4 ปีข้างหน้าที่ กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซียนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น