รถส่วนตัวในเมืองหลวงของประเทศ หรือกรุงเทพนี่แหละ (จะเขียนทำไมยาวเนอะ)
ค่านิยมในความสะดวกสบายของคนที่อยู่ในกรุงเทพคือ การมีรถส่วนตัว เพราะเวลาจะเดินทางไปไหนมันก็ช่างสะดวกสบายซะจริงๆ และอีกอย่างที่มองข้ามไม่ได้คือ ค่านิยมที่ว่า มีรถแล้วดูดี เกิดมาทั้งทีมันต้องมีรถ นี่แหละคือความเป็นไยที่น่าเป็นห่วง
คนมีรถในกรุงเทพส่วนมากต้องมีเรื่องบ่นแน่นอนคือ รถติด ถ้าถามว่าทำไมรถถึงติด สาเหตุมันก็มาจากคนที่มีรถ หรือตัวคุณเองนั่นแหละ ที่ทำให้รถมันติด
รถเยอะถนนน้อยทำให้รถติด คนส่วนใหญ่จะมองว่าวิธีแก้ปัญหาคือ เพิ่มถนน เพิ่มเลน ทำทางข้าม ทางลอด ทางด่วน ฯลฯ ใช่ครับ นั่นคือวิธีแก้ปัญหา แต่มันเป็นการแก้ที่ปลายเหตุไม่ใช่ต้นเหตุ ต่อให้เพิ่มถนนไปมากเท่าไหร่ แต่คนมีรถก็เพิ่มขึ้นตาม แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่ออนาคตข้างหน้า รถมันก็เยอะขึ้น และถนนมีเท่าเดิมอีกครั้ง
ผมว่าวิธีแก้ปัญหาควรแก้ที่ต้นเหตุ ตอนนี้ถนนในกรุงเทพมีเยอะมากแล้ว เราควรแก้ปัญหาที่รถมากกว่า หากทีกฎหมายบังคับให้ 1 บ้าน มีรถได้ 1 คัน รถก็จะน้อยลง และคนมีรถต้องจ่ายภาษีเยอะมาก เป็นการบังคับให้คนที่คิดจะมีรถ ต้องคิดให้ดีๆ รถก็จะน้อยลง
หลายคนร้อง อ้าว แล้วแบบนี้จะเดินทางยังไงล่ะ วิธีแก้ปัญหานี้ก็คือ การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะไงครับ
หลายคนบอก ไม่ไหวหรอก ระบบห่วยแตก บริการแย่ ผมไม่เถียงครับ แต่ผมอยากถามว่า ใครทำให้มันแย่ล่ะครับ ถ้าไม่ใช่ตัวพวกคุณเองที่มีความเป็นไทยอยู่เต็มที่
คุณมีรถส่วนตัวใช้ทุกวัน รถโดยสารสาธารณะเค้าเลยไม่ต้องพัฒนาอะไรเพราะต่อให้พัฒนาดียังไง พวกคุณก็ไม่ไปใช้บริการเค้าอยู่ดี แต่กลับกัน ถ้าพวกคุณหันมาใช้บริการของเค้า เค้าเองก็ต้องมีการพัฒนาทั้งระบบ บริการ รวมไปถึงความสะดวกสบายที่จะมอบให้
ดูตัวอย่างญี่ปุ่น หรือสิงคโปร์สิครับ บ้านเค้ามีรถส่วนตัวใช้น้อยมาก กฎของธรรมชาติและสังคมเลยบังคับให้ระบบโดยสารสาธารณะเค้าต้องพัฒนาให้ดี เพื่อให้บริการประชาชน ผมเชื่อว่า ถ้าบ้านเรามีรถส่วนตัวใช้กันน้อยลง ระบบโดยสารสาธารณะของเรา ก็ต้องพัฒนาได้แบบเค้าแน่นอนครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น