ในสังคมไทย การที่ผู้หญิงไปหาผู้ชายถึงที่บ้าน หรือที่ห้องพักของผู้ชาย แน่นอนว่าอาจจะโดนมองเป็นผู้หญิงไม่ดี เป็นผู้หญิงแรด ร่าน แต่ก็มันก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้างถ้าผู้หญิงจะหลุดพ้นข้อหาเล่านั้นนั่นก็คือ สังคมรอบข้างรู้ว่าเค้าสองคนเป็นคู่รักกันนานแล้ว หรือแต่งงานเป็นสามี ภรรยากันแล้วนั้นเอง
แต่ที่จะพูดถึงในวันนี้คือ กรณีที่ผู้หญิงพึ่งเริ่มคบกับผู้ชายในระยะเวลาสั้นๆ 2-3 เดือน ถึงแม้ว่าจะบอกว่าเป็นแฟนกันแล้ว แต่ระยะเวลาสั้นๆเพียง 2-3 เดือน มันก็น้อยเกินไปที่ผู้หญิงจะไปนอนกับผู้ชายถึงที่พัก แม้ว่าสังคมรอบข้างจะรู้แล้วว่าเค้าสองคนเป็นแฟนกัน แต่มันก็คงไม่เหมาะสักเท่าไหร่สำหรับผู้หญิงที่จะเป็นฝ่ายไปหาผู้ชาย
ในการที่ผู้หญิงไปนอนกับผู้ชาย สังคมรอบข้างของผู้ชายย่อมเห็นผู้หญิงมานอนด้วยบ่อยๆ จะด้วยเหตุผลที่ว่าผู้ชายไม่ว่าง ไม่สะดวกเป็นฝ่ายไปนอนกับผู้หญิงหรือจะด้วยเหตุผลอะไรอื่นๆก็แล้วแต่ มันย่อมทำให้ผู้หญิงดูกลายเป็นผู้หญิงไม่ดีไปทันที (ก็แล้วแต่ความคิด และมุมมองของแต่ละคนนะครับ)
ในระยะสั้นๆ หากไม่คิดอะไรมากมายหรือสังคมรอบข้างของผู้ชายไม่คิดอะไรมากมาย มันก็คงไม่มีเรื่องนินทาอะไรตามมา แต่ถ้าในระยะยาวล่ะ ?
ระยะยาว 5-6 เดือนขึ้นไป หากผู้หญิงยังต้องเป็นฝ่ายไปหาผู้ชายอยู่เรื่อยๆ สิ่งที่เริ่มเป็นที่นินทาก็(อาจจะ)เริ่มมีมากขึ้น
ผู้หญิง ก็อาจจะโดนนินทาว่า เป็นผู้หญิงที่ไม่รักษาเกียรติของตัวเองเลย เป็นฝ่ายวิ่งหาผู้ชายอยู่ได้
ผู้ชาย ก็อาจจะโดนนินทาว่า เป็นผู้ชายภาษาอะไร กระจอกสิ้นดี ให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายมาหาอยู่ได้
ในทางกลับกับ หากผู้ชายไปนอนกับผู้หญิงถึงที่พักบ้างล่ะ แน่นอนว่าสังคมรอบข้างของผู้หญิงก็ต้องเห็นผู้ชายมาบ่อยๆ ในระยะสั้นๆ 2-3 เดือนแรกอาจจะมีคนมองว่า ผู้หญิงคนนี้ร้ายนะเนี่ย ให้ผู้ชายมานอนด้วยถึงที่พัก
แต่ถ้าในระยะยาวๆ 5-6 เดือนขึ้นไป สังคมรอบข้างของผู้หญิงอาจจะมองว่า ผู้ชายคนนี้เป็นสุภาพบุรุษมากพอ เพราะมาหาผู้หญิงเรื่อยๆ คงเป็นคนที่มั่นคงในความรักแน่ๆและผู้หญิงก็อาจจะโดนมองว่า เป็นผู้หญิงที่ดี ไม่คบผู้ชายหลายคน เพราะเห็นมีผู้ชายเพียงคนเดียวที่แวะมาหา
แต่ก็นั้นแหละครับ ต่างคนต่างมุมมอง ต่างคนต่างความคิด เรื่องแบบนี้มันไม่มีข้อสรุป หรือกฎเกณฑ์ตายตัวหรอกครับ ว่าการที่ผู้หญิงไปหาผู้ชายถึงที่ มันเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น