ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตอนที่ 44 (เรื่องสั้น) ... คดีฆาตกรรม ณ ลานจอดรถ



     "สวัสดีครับคุณตั้ม และคุณชัย ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ แชร์กันสนั่นจอ นะครับ" ผู้ดำเนินรายการแชร์กันสนั่นจอ กล่าวต้อนรับแขกรับเชิญทั้งสองท่านที่ให้เกียรติมาร่วมรายการ

     "สวัสดีครับ" ผู้ร่วมรายการทั้งสองท่าน ยกมือไหว้ ผู้ดำเนินรายการ และท่านผู้ชมทั้งในห้องส่ง และผู้ชมทางบ้าน

     "แล้วผมก็ขอสวัสดีท่านผู้ชมทั้งในห้องส่ง และท่านผู้ชมทางบ้านด้วยนะครับ เราเจอกันนานๆครั้ง บางทีก็เจอกันในวันหยุดนักขัตฤกษ์แบบวันนี้ บางทีก็เจอกันในวันธรรมดา บางทีบางปีเราก็ไม่เจอกันเลย รายการอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีเวลากำหนดตายตัวเอาซะเลย แต่ว่าพอเรามาเจอกันแต่ละครั้ง ก็ได้แง่คิดกลับไปกันทุกครั้งนะครับ"  ผู้ดำเนินรายการกล่าวทักทายผู้ชมทั้งในห้องส่ง และทางบ้านอย่างมีอารมณ์ขัน

     "เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลานะครับ เพราะนานๆเราจะเจอกันสักครั้ง งั้นเริ่มกันเลยดีกว่าครับ ผู้ร่วมรายการทั้งสองท่านครับ ขอให้แนะนำตัวเองสักนิดครับ อายุเท่าไหร่ มีคนรู้ใจรึยัง ทำงานอะไร และเงินเดือนเท่าไหร่ครับ ขอเริ่มจากคุณตั้มก่อนละกันครับ"  ผู้ดำเนินรายการเข้าสู่รายการทันทีเนื่องจากเวลาไม่คอยท่าเพราะเป็นรายการสด โดยขอให้ผู้ร่วมรายการแนะนำตัวทีละคน

     "สวัสดีครับ ผมชื่อ ตั้มครับ ปัจจุบันอายุ 30 ปี ยังไม่มีคนรู้ใจครับ ทำงานเป็นพนักงานบริษัท ตำแหน่งอะไรขอไม่บอกนะครับ เงินเดือนสองหมื่นห้าพันบาทครับ" ตั้ม แนะนำตัวจบ ผู้ชมในห้องส่งก็ปรบมือให้

     "ครับผม นี่ก็คือคุณตั้มนะครับ ต่อไปขอเชิญคุณชัย แนะนำตัวต่อเลยครับ"  ผู้ดำเนินรายการทำหน้าที่เพื่อให้รายการต่อเนื่อง

     "สวัสดีครับ ผมชื่อ ชัยครับ ตอนนี้อายุ 30 ปี ยังไม่มีแฟนครับ ทำงานเป็นพนักงานบริษัท ส่วนตำแหน่งก็ขอไม่บอกเหมือนกันครับ เงินเดือนสามหมื่นครับ" ชัย แนะนำตัวจบ ผู้ชมในห้องส่งก็ปรบมือให้

     รายการดำเนินไปเรื่อยๆ จนใกล้จะจบรายการ  ผู้ดำเนินรายการจึงสรุปถึงการแชร์ประสบการณ์ของทั้งคู่ให้ผู้ชมทั้งในห้องส่ง และผู้ชมทางบ้านได้รับทราบ

     "การแชร์ประสบการณ์กันในวันนี้ก็สรุปได้ว่า หากใครอยากใช้ชีวิตแบบพอเพียง มีเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคต ก็ให้ใช้ชีวิตแบบคุณตั้มนะครับ ส่วนใครที่อยากใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยง แบบเกิดมาทั้งทีต้องใช้ให้คุ้ม ก็ต้องใช้ชีวิตแบบคุณชัยนะครับ แล้วนี่แหละครับ สองขั้วรูปแบบชีวิตที่นำมาแชร์กันสนั่นจอในวันนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่ได้รับชมรายการนะครับ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า เมื่อมีโอกาสนะครับ สวัสดีครับ"  ผู้ดำเนินรายการกล่าวจบ ทุกคนในห้องส่งปรบมือ แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

     "เราสองคนนี่ ต่างกันสุดขั้วจริงๆนะครับคุณชัย ว่าแต่คุณชัยทำงานที่ไหนเหรอครับ" ตั้มเดินออกจากห้องส่ง โดยมีชัยเดินออกมาพร้อมกัน

     "ผมทำงานอยู่บริษัท สายตาสั้น น่ะครับ รู้จักรึเปล่าครับ" ชัย ตอบคำถามของตั้ม

     "รู้จักครับ เพื่อนผมเคยทำงานอยู่ที่นั่นครับ แต่ตอนนี้เธอตายแล้วครับ เธอบอกว่า เธอใช้ชีวิตผิดพลาดครับ เธอเลยตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพื่อนผมชื่อ นก คุณชัยรู้จักรึเปล่าครับ" ตั้ม ถามถึงเพื่อนเก่าของเค้า ที่เคยทำงานที่บริษัทเดียวกับชัย

     "นก คนที่ตัวเล็กๆ ขาวๆ ใช่รึเปล่าครับ" ตั้ม พยักหน้า "อ่อ งั้นรู้จักครับ เราสนิทกันพอสมควรล่ะครับ งานศพเธอ ผมก็ไปนะครับ แต่ผมไม่รู้เธอฆ่าตัวตายทำไมนะครับ" ชัย บอกให้ตั้มฟัง

     "เธอจะฆ่าตัวตายเพราะอะไรก็ช่างเถอะครับ มันผ่านไปแล้ว เราคุยเรื่องอื่นกันดีกว่านะครับ" ตั้ม บอกให้ปล่อยเรื่องของนกผ่านไป แล้วคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า ทั้งสองคนเดินคุยกันออกจากตึกที่มาร่วมรายการ จนถึงลานจอดรถที่หน้าตึก แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้น

     "ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย มีคนบาดเจ็บอยู่ตรงนี้ ช่วยด้วยค่ะ" เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนขอความช่วยเหลือ หลังจากเห็นผู้ชายคนหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่ที่ลานจอดรถหน้าตึกใกล้ๆรถคันหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นรถของผู้บาดเจ็บเอง เพราะในมือเขาถือกุญแจรถอยู่

     "แน่ใจนะครับ ว่าผู้ตายคือหนึ่งในผู้มาร่วมรายการแชร์กันสนั่นจอเมื่อครู่นี้" สารวัตรสมชาย สอบถามกับผู้ดำเนินรายการแชร์กันสนั่นจอ ที่พึ่งถ่ายทอดสดออกอากาศไปเมื่อครู่นี้ หลังจากที่สารวัตรสมชายบังเอิญแวะมาหาเพื่อนที่ตึกนี้พอดี และพอได้ยินเสียงเรียกขอความช่วยเหลือก็สั่งให้ รปภ. ห้ามให้รถทุกคันออกจากลานจอดรถ ก่อนจะมาตรวจจุดเกิดเหตุ

     "แน่ใจครับ คนนี้คือ คุณชัยครับ หนึ่งในผู้มาร่วมรายการแน่นอนครับ" ผู้ดำเนินรายการแชร์กันสนั่นจอ บอกให้สารวัตรสมชายทราบ

     "พึ่งเสียชีวิตไม่ถึง 10 นาทีแน่นอนครับสารวัตร" ลูกน้องของสารวัตรสมชายเข้าตรวจสอบสภาพศพ และรายงานให้สารวัตรสมชายทราบ

     "งั้นคนร้ายก็ต้องยังอยู่แถวนี้แน่นอน โทรแจ้งสถานะการณ์ แล้วขอกำลังสนับสนุนด่วนเลย เราต้องรีบจับคนร้ายให้ได้ทันที" สารวัตรสมชายสั่งลูกน้อง

     "คุณครับ คุณเห็นเหตุการณ์บ้างรึเปล่าครับ" สารวัตรสมชาย เดินดูบริเวณลานจอดรถจนมาถึงรถของตั้ม ซึ่งจอดติดเครื่องอยู่ที่ลานจอดรถด้วย จึงได้ทำการเคาะกระจกสอบถามว่าเห็นเหตุการณ์ และคนร้ายบ้างรึเปล่า

     "เหตุการณ์อะไรเหรอครับ" ตั้ม ลดกระจกลง แล้วถามสารวัตรสมชายด้วยความสงสัย

     "พอดีมีเหตุฆ่ากันตายตรงโน้นน่ะครับ (สารวัตรสมชายชี้ไปทางที่ชัยถูกฆ่า) ผมนึกว่าคุณพอจะเห็นเหตุการณ์น่ะครับ" สารวัตรสมชายอธิบาย

     "เอ๋ ตรงนั้นมันรถของเพื่อนใหม่ผมนี่ครับ เรามารายการแชร์กันสนั่นจอเมื่อครู่นี้ แล้วเราก็รู้จักกัน เดินคุยกันออกมาที่ลานจอดรถ แล้วก็แยกย้ายกันตรงรถของเค้านั่นแหละครับ ผมก็เดินมารถของผม" ตั้ม พูดจบก็ลงจากรถ แล้วไปยังที่เกิดเหตุ

     "เฮ้ย ชัย อะไรกันเนี่ย เมื่อกี้ยังคุยกันอยู่เลย เดินกลับไปที่รถแปปเดียว ทำไมนายโดนฆ่าซะแล้ว" ตั้ม ตกใจมาก เมื่อเห็นเพื่อนใหม่ถูกฆ่าตายเสียแล้ว

     "เรายังไม่ทราบนะครับ ว่าใครคือคนที่ฆ่าผู้ตาย แต่อีกไม่นาน เราจับคนร้ายได้แน่นอนครับ เพราะผมเชื่อว่าคนร้ายน่าจะยังอยู่แถวๆนี้ ยังหนีไปไหนได้ไม่ไกล อาจจะรวมถึงคุณด้วยนะครับ ที่น่าสงสัย (หมายถึง ตั้ม)" หนุ่มมาดเท่คนหนึ่ง ที่ยืนอยู่ข้างๆตั้มพูดขึ้น

     "เอ้า นักสืบกวินนั่นเอง มาเร็วจังนะ ผมพึ่งโทรหาไม่ถึง 5 นาทีเลยนะ" สารวัตรสมชายทักทายนักสืบกวิน ผู้ซึ่งมีความสามารถในการสืบค้นมากกว่าตัวเขา

     "พอดีผมอยู่ในซอยถัดไปนี่เองครับ มาหาอะไรกินน่ะครับ (ยกถุงขนมปังขึ้นให้สารวัตรดู) เริ่มเลยมั้ยครับ อากาศร้อนๆแบบนี้ ขืนชักช้าเดี๋ยวจะไหม้กันหมด" นักสืบกวิน จะลุยสืบหาตัวคนร้ายแล้ว ซึ่งจริงๆแล้วเค้ามุ่งเป้าคนร้ายไปที่ตั้ม ซึ่งน่าสงสัยที่สุด แต่เค้าต้องหาหลักฐานเพิ่ม เพื่อมัดให้ดิ้นไม่หลุด

     "เอาเลย เริ่มได้เลย จับคนร้ายได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ไม่รู้ว่าตอนนี้คนร้ายหนีไปไหนแล้วรึเปล่า" สารวัตรสมชาย ให้นักสืบกวินเริ่มสืบได้เลย

     "หนีไปก็เท่านั้นแหละครับ เพราะตำรวจไทยเก่งอยู่แล้ว ยิ่งสารวัตรสมชายด้วยแล้ว ยิ่งเก่งสุดๆเลย" นักสืบกวิน หยอดคำหวานใส่สารวัตรสมชาย แล้วก็มองหน้าของตั้ม เพื่อหาพิรุธ ซึ่งก็พบกับยิ้มแห้งๆ ทำให้เค้ามั่นใจว่า ตั้มคือร้ายแน่นอน แต่ต้องหาหลักฐานเพิ่ม

     "จากการเก็บหลักฐานของลูกน้องสารวัตรพบว่า ผู้ตายโดนฆ่าโดยถูกตีด้วยของแข็งอย่างแรงเข้าที่ศรีษะด้านหลัง แต่ที่น่าสงสัยคือ ทำไมที่ศรีษะของผู้ตายถึงมีรูด้วยหนึ่งรู เหมือนรูตะปู ผมคิดว่าผู้ตายน่าจะโดนไม้ ที่มีตะปูตอกติดอยู่ฟาดเข้าอย่างแรง จนตะปูทะลุกะโหลก ทำให้ผู้ตายเสียชีวิต อ้าวนั่นไง พูดไม่ทันขาดคำ ลูกน้องสารวัตรถือไม้ที่คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้สังหารผู้ตายมาแล้วนั่น" นักสืบกวิน มองไปที่ไม้ที่คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้สังหารฆ่าตาย ซึ่งที่ปลายไม้ก็มีตะปูตอกติดอยู่จริงๆ

     "ได้หลักฐานชิ้นนี้มาจากไหนล่ะ" สารวัตรสมชายถามลูกน้อง

     "เจออยู่ในถังทิ้งวัสดุก่อสร้าง ที่เป็นถังน้ำมัน 200 ลิตรตรงบริเวณสถานที่ก่อสร้างตึกข้างๆนี้ครับ" ลูกน้องรายงานสารวัตรสมชาย

     "หรือว่าคนร้ายจะเป็นคนงานก่อสร้างครับ" ตั้ม ตั้งข้อสงสัยบอกกับสารวัตรสมชาย และนักสืบกวิน

     "อาจจะเป็นไปได้ครับ เพราะจากรายงานบอกว่า ไม่พบกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ และเครื่องประดับอื่นๆเลย อาจจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ก็ได้" นักสืบกวินอธิบาย

     "ไปตรวจสอบ และสอบถามคนงานก่อสร้างแถวนั้นดูนะ เผื่อจะได้หลักฐาน หรือเบาะแสอะไรเพิ่มเติม" สารวัตรสมชาย สั่งลูกน้องให้ไปสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม

     "ผมไปด้วยครับ" นักสืบกวิน ขอไปหาหลักฐานเพิ่มเติมด้วยอีกคน

     "ได้อะไรเพิ่มเติมบ้างรึเปล่า" สารวัตรสมชาย ถามลูกน้องหลังจากที่ให้ไปตรวจสอบ และสอบถามคนงานก่อสร้างเพิ่มเติมเมื่อ 5 นาทีที่ผ่านมา

     "วันนี้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ครับ ทำให้มีคนงานก่อสร้างแค่ 5 คนที่มาทำโอที แล้วทั้ง 5 คนก็ยืนยันว่าอยู่ด้วยกันตลอดในตึกไม่มีใครออกมานอกตึกครับ แล้วก็สอบถาม รปภ.ทั้ง 2 คนที่ตึกก่อสร้างแล้ว ก็ยืนยันครับว่าคนงานไม่ได้ออกจากตึกเลยครับ" ลูกน้องรายงานสารวัตรสมชาย

     "แบบนี้ก็คงไม่ใช่คนงานก่อสร้างแล้ว แต่จะเป็นใครกันล่ะ ผู้ตายถูกฆ่าชิงทรัพย์แบบนี้ ต้องเป็นคนในพื้นที่แน่นอน เพราะหลังจากฆ่าชิงทรัพท์ไปแล้ว ก็เอาอาวุธที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้ง แล้วหลบหนีไปได้อย่างง่ายดาย" สารวัตรสมชาย เริ่มนึกถึงคนร้ายที่ไม่ใช่คนงานก่อสร้าง

     "ไม่ใช่หรอกครับสารวัตร คนร้ายยังอยู่ที่นี่ และเขาก็ยืนอยู่กับเราด้วย ใช่รึเปล่าครับ คุณตั้ม" นักสืบกวิน ที่ขอไปหาหลักฐานเพิ่มเติมกับลูกน้องของสารวัตรสมชาย แต่ไม่ได้กลับมาพร้อมลูกน้องของสารวัตรสมชาย เพราะเค้าได้ออกไปหาหลักฐานเพิ่มเติมอีก จนได้หลักฐานมากพอที่จะเอาผิดกับตั้มได้แล้ว

     "หา อะไรนะครับ ไม่ใช่มั้งครับ ผมจะฆ่าเค้าทำไมล่ะครับ เราพึ่งรู้จักกันตอนมาออกรายการด้วยกันเมื่อกี้นี้เองนะครับ" ตั้มตกใจ แล้วก็อธิบายให้นักสืบกวินฟัง

     "ผมไม่รู้นะครับ ว่าคุณฆ่าผู้ตายทำไม แต่คนที่ฆ่าผู้ตาย คือคุณแน่นอน คุณตั้ม เพราะจากหลักฐานที่ผมพบ มันชี้ว่าเป็นคุณ" นักสืบกวิน ยืนยันว่าคนที่ฆ่าผู้ตายคือ ตั้มแน่นอน

     ยังไม่ทันที่ตั้มจะพูดอะไร นักสืบกวินก็หยิบเอาไม้ที่เป็นอาวุธสังหารผู้ตายขึ้นมา "ดูตรงไม้ที่เป็นอาวุธสังหารผู้ตาย มีร่องรอยของเสี้ยนไม้ที่หายไปนิดหน่อย ซึ่งรอยนี้เป็นรอยใหม่ และจากการฟาดด้วยความแรง ผมเชื่อว่าเสี้ยนไม้ได้ตำเข้าที่มือของคุณ และคุณก็เอามันไม่ออกด้วยแน่นอน คุณจึงต้องเอาพลาสเตอร์ยาปิดแผลมาพันไว้ เพราะมันเจ็บ" นักสืบกวิน อธิบายถึงหลักฐานชิ้นแรก ทำเอาตั้มอึ้งพูดไม่ออก

     "หลักฐานชิ้นต่อมา คือ หญ้าที่ขากางเกง และฝุ่นสีแดงที่รองเท้าของคุณ สังเกตดูสิครับ เหมือนที่ขากางเกง และรองเท้าของผมรึเปล่า...ผมคาดว่า พอคุณใช้ไม้ตีผู้ตายแล้ว คุณก็ตกใจกลัวความผิด คุณเลยคิดวิธีโยนความผิดให้คนงานก่อสร้าง เพราะคุณเห็นว่ามีตึกที่กำลังก่อสร้างอยู่ข้างๆ คุณรีบรื้อค้นเอาทรัพย์สินของผู้ตาย แล้วก็วิ่งเอาไม้ไปทิ้งที่ถังน้ำมัน 200 ลิตร ซึ่งมันก็บังเอิญเหลือเกินว่า ถังนี้ใช้ทิ้งวัสดุก่อสร้างอยู่แล้ว คุณเลยคิดว่า งานนี้รอดแน่ๆ แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมีคนมาพบศพซะก่อน คุณเลยต้องหาทางอื่นอ้อมไปขึ้นรถของตัวเองที่ลานจอดรถ จนลืมสังเกตไปว่า แถวนั้นมีหญ้าเจ้าชู้ และเศษฝุ่นของอิฐบล็อคสีแดงอยู่บนพื้น" นักสืบกวิน อธิบายถึงหลักฐานชิ้นต่อมา ตั้มได้แต่ก้มหน้ามองหญ้าที่ขากางเกง และรองเท้าของตัวเอง

     "และหลักฐานสำคัญชิ้นสุดท้ายก็คือ โทรศัพท์อีกเครื่องที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของคุณนั่นไง ผมดูคุณจากรายการแชร์กันสนั่นจอแล้ว คุณเป็นคนใช้ชีวิตแบบพอเพียง คงไม่พกโทรศัพท์สองเครื่องหรอก จริงรึเปล่าครับ" นักสืบกวิน อธิบายถึงหลักฐานชิ้นสุดท้าย

     "เฮ้อ หนีไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะตำรวจไทยเก่งสุดยอดอยู่แล้ว หนีได้ไม่นาน ผมก็คงโดนตามจับแน่นอน แต่ก็ไม่คิดว่าจะโดนจับเร็วขนาดนี้ เพราะนักสืบแบบคุณแท้ๆ เหตุผลที่ผมฆ่าเค้าน่ะเหรอ ผมบอกสั้นๆนะครับ ผมแก้แค้นแทนเพื่อนสาวของผมที่ชื่อ นก ครับ แต่จริงๆแล้วผมไม่คิดจะฆ่าเค้านะครับ ผมแค่อยากจะสั่งสอนให้เค้าเจ็บตัวแค่นั้น ตอนนั้นผมเดินมาส่งเค้าที่รถ แล้วผมก็เห็นไม้วางอยู่ที่ใกล้ๆหน้ารถเค้า ตอนนั้นผมคงอารมณ์ชั่ววูบล่ะครับ เดินไปหยิบไม้มา แล้วก็ฟาดเค้าจากด้านหลังทันที กะว่าให้เค้าบาดเจ็บ แต่ผมไม่รู้ว่าที่ปลายไม้มันมีตะปูอยู่ พอฟาดเค้าเสร็จ ปรากฏว่าเค้าลงไปนอนจมกองเลือด ผมก็เลยทำตามที่คุณนักสืบเล่ามานั้นแหละครับ" ตั้ม ยอมสารภาพทุกอย่างออกมา แล้วคดีนี้ ก็จบลงอย่างสวยงามด้วยฝีมือของนักสืบที่ชื่อ กวิน

ความคิดเห็น