hostneverdie

weltrade

siamfocus

ตอนที่ 59 (เรื่องสั้น) _ หมูยอ หมูสับ หมูกับไก่



หมูยอ หมูสับ หมูกับไก่

     "เอาแบบนี้ก็แล้วกัน เรามาแข่งกันเลยดีกว่า ใครชนะก็อยู่เหนือกว่าไปเลย เกทับใส่อีกคนได้ แต่ถ้าใครแพ้ ก็ห้ามมาเกทับใส่คนที่ชนะ เอาแบบนี้มั้ยล่ะ" หญิงสาวพูดใส่อารมณ์กับชายหนุ่มที่เปิดร้านอาหารที่อยู่ติดกัน

     "โอเค ได้เลย แต่อย่ามาร้องไห้ โวยวายทีหลังก็แล้วกัน" ชายหนุ่มก็ไม่ยอมแพ้ พูดใส่อารมณ์กับหญิงสาวด้วยเช่นกัน

     "เจอดีแน่" ทั้งสองคนบังเอิญพูดพร้อมกัน พูดคำเดียวกัน แล้วก็ชี้นิ้วไปที่อีกฝ่ายพร้อมกันอีก

     ณ อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ในประเทศสารขัณฑ์ อาคารพาณิชย์แห่งนี้มีอยู่ 4 คูหา คูหาแรกนับจากซ้ายมือ เป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ คูหาสุดท้ายนับจากซ้ายมือ เป็นคลีนิครักษาโรค ส่วนสองคูหาตรงกลาง เป็นร้านอาหารซึ่งบังเอิญมาเปิดอยู่ติดกัน แต่ก็ยังดีที่ขายอาหารไม่เหมือนกัน

     หมู เป็นเจ้าของร้านยำสาระพัด ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าร้านยำ เพราะฉะนั้นร้านของหมูจึงมียำขายแทบทุกชนิดตามแต่ลูกค้าจะสั่ง แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุดของร้านคือ ยำหมูยอ โดยหมูยอของที่ร้านนี้จะทำเองด้วยสูตรพิเศษที่เป็นความลับ เป็นสูตรใหม่ที่หมูคิดค้นขึ้น จนเป็นที่ถูกปากของลูกค้าอย่างมาก ใครมากินที่ร้านนี้เป็นต้องสั่งยำหมูยอมากินตลอด ไม่ว่าจะกินกับข้าวสวยร้อนๆ หรือกินเล่นเปล่าๆ

     ไก่ เป็นเจ้าของร้านไข่แตก ชื่อร้านออกจะแปลกๆสักหน่อย แต่ความหมายคือ ไข่แตกเมื่อไหร่ ก็ได้ไข่เจียวอร่อยๆกินทันทีนั่นเอง ร้านของไก่เป็นร้านข้าวไข่เจียวนั่นเอง ร้านนี้มีไข่เจียวหลากหลายแบบตามสไตล์ของร้านไข่เจียวทั่วๆไป แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุดของร้านคือ ข้าวไข่เจียวหมูสับ โดยหมูสับของที่ร้านจะมีการหมักด้วยสูตรพิเศษ ซึ่งเป็นสูตรโบราณสมัยคุณยาย ทำให้รสชาติอร่อยติดปากลูกค้าเป็นอย่างมาก เมนูข้าวไข่เจียวหมูสับจึงขายดีที่สุด

     และด้วยความที่ทั้งสองร้านเปิดอยู่ติดกัน จึงทำให้เกิดการแย่งลูกค้ากันขึ้น โดยฉนวนเหตุเกิดมาจาก...ความไม่ถูกชะตากันของเจ้าของร้านทั้งสองคนนั่นเอง

     "ไม่รู้เป็นอะไร ไม่ถูกชะตากับหญิงไก่เลยแฮะ สงสัยเคมีไม่เข้ากัน แบบนี้มีสองทางคือ เราต้องย้ายไปขายที่อื่น กับหาทางบีบให้หญิงไก่ย้ายไปขายที่อื่น" หมู บ่นกับลูกน้องในร้านของเขา

     "แล้วเราจะทำยังไงล่ะครับ" ลูกน้องของหมูถามขึ้น

     "เราก็ต้องแย่งลูกค้าของหญิงไก่มาสิ ให้ร้านของหญิงไก่ขายได้น้อยลง เดี๋ยวก็ย้ายไปหาทำเลอื่นขายเองแหละ" หมู พูดด้วยรอยยิ้มที่มีแผนการไว้แล้ว

     "ยังไงครับ/คะ" ลูกน้องของหมูทั้ง 4 คนพูดเป็นเสียงเดียวกันด้วยความสงสัย แต่หมูไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มอยู่คนเดียว

     "ไม่รู้เป็นอะไร ไม่ถูกชะตากับนายหมูเลยแฮะ สงสัยเคมีไม่เข้ากัน แบบนี้ต้องหาทางบีบให้นายหมูย้ายไปขายที่อื่นซะแล้ว" ไก่ บ่นกับลูกน้องในร้านของเธอ ซึ่งไก่เองก็ไม่ถูกชะตากับหมูเท่าไหร่นัก แต่ความคิดของไก่ ไม่มีความคิดที่จะย้ายร้านของตัวเอง มีแต่ความคิดที่จะบีบให้นายหมูย้ายออกไปเท่านั้น

     "แล้วเราจะทำยังไงล่ะคะ" ลูกน้องของไก่ถามขึ้น

     "เราก็ต้องแย่งลูกค้าของนายหมูมาสิ ให้ร้านของนายหมูขายได้น้อยลง เดี๋ยวก็ย้ายไปหาทำเลอื่นขายเองแหละ" ไก่ พูดด้วยรอยยิ้มที่มีแผนการไว้แล้ว

     "ยังไงคะ/ครับ" ลูกน้องของไก่ทั้ง 5 คนพูดเป็นเสียงเดียวกันด้วยความสงสัย แต่ไก่ไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มอยู่คนเดียว

     เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งสองร้านมีการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างที่หน้าร้าน ทำเอาลูกน้องของทั้งสองร้านที่เดินทางมาถึงร้านเพื่อช่วยเตรียมตัวเปิดร้านอึ้งกันไปเลยทีเดียว

     "เฮ้ยๆ แกว่าเจ้าของร้าน ของเราทั้งสองคน...เต็มมั้ยเนี่ย" ลูกน้องของร้านไก่ พูดกับลูกน้องของร้านหมู

     "ถ้าไม่เต็ม ก็เกินล่ะเฮ้ย" ลูกน้องของร้านหมูตอบ

     สิ่งที่ลูกน้องของทั้งสองร้านเห็นคือ ป้ายที่ติดเพิ่มที่หน้าร้าน โดยมีข้อความว่า "ยำหมูยอร้านนี้ อร่อยกว่าไข่เจียวหมูสับร้านข้างๆ" ติดอยู่ที่หน้าร้านของหมู และ "ไข่เจียวหมูสับร้านนี้ อร่อยกว่ายำหมูยอร้านข้างๆ" ซึ่งติดอยู่ที่หน้าร้านของไก่

     ทั้งสองข้อความทำเอาลูกน้องของทั้งสองร้านถึงกับอึ้ง คิดไม่ถึงว่าเจ้านายของพวกเขาจะออกแนวเด็กๆตีกันไปซะได้ แต่ทั้งสองข้อความนั้น หมูกับไก่ ยังไม่เห็นของกันและกัน เพราะยังไม่ได้เดินออกไปเช็คความเรียบร้อยที่หน้าร้าน

     "อั๊ยยะ ช่างกล้านะไก่" หมูเดินออกมาเช็คความเรียบร้อยที่หน้าร้านก่อนไก่ พอหมูมองไปที่ร้านของไก่ ก็ได้เจอป้ายข้อความที่ไก่ติดเพิ่มเข้าอย่างจัง

     ไก่ เห็นหมูยืนอยู่ที่หน้าร้านตัวเอง แต่มองมาทางร้านของเธอ ก็เลยเดินออกมาตั้งใจจะเกทับ แล้วห้ามหมูเขียนป้ายข้อความเลียนแบบ แต่ทันทีที่ไก่หันไปมองที่หน้าร้านของหมู ไก่ก็รู้ว่ามันสายไปเสียแล้ว ได้แต่ตกใจอุทานออกมาเท่านั้น "อั๊ยยะ ช่างกล้านะหมู"

     ทั้งสองคนคงมีความคิด และนิสัยที่คล้ายกัน จึงไม่ค่อยถูกชะตากันเท่าไหร่นัก ทั้งคู่ยืนอยู่ที่หน้าร้านของตัวเอง แต่ต่างก็มองไปที่หน้าร้านของอีกคน ก่อนที่จะหันมามองหน้ากัน แล้วบรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นโรแมนติกอย่างเหลือเชื่อขึ้นมาทันที ทั้งสองคนมองตากัน แล้วไก่ก็ค่อยๆหลับตาลง เผยอปากรอรับการจูบของหมู เออ...ไม่ใช่ละ เอาใหม่ๆ ทั้งสองคนหันมามองหน้ากัน แล้วไก่ก็พูดขึ้นมาว่า...

     "เอาแบบนี้ก็แล้วกัน เรามาแข่งกันเลยดีกว่า ใครชนะก็อยู่เหนือกว่าไปเลย เกทับใส่อีกคนได้ แต่ถ้าใครแพ้ ก็ห้ามมาเกทับใส่คนที่ชนะ เอาแบบนี้มั้ยล่ะ" ไก่ พูดใส่อารมณ์กับหมู

     "โอเค ได้เลย แต่อย่ามาร้องไห้ โวยวายทีหลังก็แล้วกัน" หมู ก็ไม่ยอมแพ้ พูดใส่อารมณ์กับไก่ด้วยเช่นกัน

     "เจอดีแน่" ทั้งสองคนช่างมีอะไรที่คิด และทำคล้ายกันจริงๆ ขนาดชี้นิ้ว และพูด ยังพูดพร้อมกัน คำเดียวกันอีก

     "กติกาล่ะ มียังไงบ้าง" หมู เป็นคนถามขึ้น

     "อืม เอาแบบนี้ก็แล้วกัน อีก 3 วัน ร้านฉันจะขายแต่ข้าวไข่เจียวหมูสับ ส่วนร้านของนายก็ขายแต่ยำหมูยอ แต่เราจะจัดโปรโมชั่นพิเศษว่า...มากินที่ร้านวันนี้ นั่งร้านไหนก็ได้ รับข้าวไข่เจียวหมูสับ และยำหมูยอไปเลยในราคา 30 บาท แต่ช่วยให้คะแนนความอร่อยด้วย โดยจะมีคะแนนเต็ม 10 คะแนน พอปิดร้าน เรามานับคะแนนกันเลย ใครได้มากกว่าก็ชนะไปเลย แบบนี้โอเครึเปล่าล่ะ" ไก่ อธิบายกติกาให้หมูฟัง

     "โอเคตามนี้เลย คิดไว้คล้ายๆกันเลยเชียว อีก 3 วัน เตรียมตัวให้พร้อมก็แล้วกัน เธอแพ้แน่" หมู มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะแน่นอน

     หลังจากการติดประกาศ การประชันความอร่อยของทั้งสองร้านให้คนในหมู่บ้านได้รับทราบ ผ่านไปครบ 2 วัน ก็เข้าสู่วันที่ 3 ซึ่งเป็นวันตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ที่จะสามารถเกทับใส่อีกฝ่ายได้ก็มาถึง

     วันนี้ทั้งสองร้านเตรียมตัวมาพร้อมเป็นอย่างมาก ทางไก่ ได้หมักหมูสูตรเด็ด และคัดส่วนที่ดี และอร่อยที่สุดของหมูมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ไข่ก็เป็นไข่สดไปรับมาเองจากหน้าฟาร์มไก่ไข่เมื่อเช้ามืดนี้เอง เพื่อความสดจริงๆ ทางด้านหมู ก็ทำหมูยอสุดฝีมือเหมือนกัน คัดส่วนที่ดีที่สุดของหมูมาทำ ผักต่างๆที่ใส่ในยำหมูยอ ก็ไปรับมาจากหน้าสวนผักเมื่อเช้ามืดนี้เอง เพื่อความสดจริงๆ แล้วการแข่งขันก็ใกล้จะเริ่มขึ้นในอีกไม่ถึง 30 นาที

     "ข้าวไข่เจียวหมูยอสูตรพิเศษได้แล้วคร้าบบบ" เจ้าของร้าน ไข่ยอ กะ ยำหมู เสิร์ฟอาหารเมนูเด็ดประจำร้านให้กับลูกค้าวีไอพี ที่มากินที่ร้านในวันนี้

     "อืม อร่อยจริงๆด้วยครับ ข้าวไข่เจียวหมูยอสูตรพิเศษของที่นี่ หมูยอรสชาติโดดเด่น อร่อยมากเลยทีเดียวครับ" ลูกค้าวีไอพี ลองชิมข้าวไข่เจียวหมูยอสูตรพิเศษแล้ว ก็อดที่จะเอ่ยปากชมไม่ได้

     "ทางด้านยำหมูสับสูตรพิเศษ ที่ไม่มีร้านไหนกล้าทำ แต่ร้านนี้กล้าทำ ก็อร่อยไม่แพ้กันเลยครับ แบบนี้ผมคงกินหมดเกลี้ยง จนอิ่มแล้วง่วงนอนแน่ๆเลยครับ ที่ร้านมีบริการที่นอนให้ลูกค้าหรือเปล่าครับ" ลูกค้าวีไอพี ลองชิมอีกเมนูเด็ดของร้านที่วางอยู่ตรงหน้าก็คือ ยำหมูสับสูตรพิเศษ แล้วก็อดที่จะมีมุขขำๆให้กับเจ้าของร้านไม่ได้ เพราะเขาคิดว่า ทั้งสองเมนู ทำให้เขาอิ่มจนง่วงได้จริงแน่ๆ

     "ขอบคุณครับ สำหรับคำชมของทั้งสองเมนูนะครับ ต้องขอบคุณคุณพ่อกับคุณแม่ล่ะครับ ที่คิดค้นสูตรพิเศษของหมูยอ และหมูสับ จนเกิดเป็นเมนูทั้งสองนี้ขึ้นมาได้ครับ อ่อ จะลองชิมยำหมูยอสูตรต้นฉบับ กับข้าวไข่เจียวหมูสับสูตรต้นฉบับดูมั้ยครับ" เจ้าของร้านไข่ยอ กะ ยำหมู กล่าวขอบคุณลูกค้าวีไอพีสำหรับคำชม พร้อมชวนชิมเมนูสูตรต้นฉบับเพิ่มอีก

     "โอ้ว ไม่ไหวล่ะครับ อีกสองเมนูสูตรต้นฉบับ ผมค่อยมาลองชิมวันหน้าก็แล้วกันนะครับ แต่พอพูดถึงคุณพ่อกับคุณแม่แบบนี้ งั้นผมขอทราบประวัติความเป็นมา ก่อนที่จะมาเป็นร้านนี้หน่อยได้รึเปล่าครับ" ลูกค้าวีไอพี ถามเจ้าของร้าน

     "ได้สิครับ" เจ้าของร้านยิ้ม ยินดีที่จะเล่าถึงอดีตของคุณพ่อกับคุณแม่

     "พ่อกับแม่ เล่าให้ผมฟังว่า แรกเริ่มเดิมที พ่อกับแม่ไม่ถูกกันครับ เรียกว่าเกลียดกันเลยก็ได้ ทั้งสองคนเปิดร้านอาหารอยู่ติดกัน เลยเกิดการแย่งลูกค้ากันขึ้นครับ จนมาวันหนึ่ง แม่ได้ท้าพ่อแข่งกันทำอาหารเมนูเด็ดประจำร้านซึ่งก็คือ ยำหมูยอของพ่อ กับ ไข่เจียวหมูสับของแม่ โดยให้ลูกค้าเป็นผู้ตัดสินครับ แต่แล้วพอถึงวันแข่งกันทำอาหาร ระหว่างที่แม่กำลังเตรียมตัวแข่งอยู่นั้น ก็มีคนร้ายวิ่งราวกระเป๋า วิ่งหนีตำรวจเข้าไปที่ร้านของแม่ ตอนนั้นแม่ให้ลูกน้องเข้าไปเตรียมวัตถุดิบที่หลังร้าน ส่วนแม่เช็คความพร้อมอยู่ที่หน้าร้าน แม่ตกใจทำอะไรไม่ถูก ก็ร้องลั่นขอความช่วยเหลือ ตอนนั้นพ่ออยู่ใกล้ที่สุด เพราะเช็คความพร้อมอยู่ที่หน้าร้านใกล้ๆร้านของแม่ พ่อก็วิ่งเข้าไปหาแม่ พอคนร้ายเห็นพ่อถือมีดเข้าไปด้วย ก็ตกใจ วิ่งหนีออกจากร้านของแม่ครับ" เจ้าของร้านเล่าไป ยิ้มไป

     "แล้วแม่ก็ตกหลุมรักพ่อ เพราะพ่อช่วยแม่ไว้ ใช่รึเปล่าครับ" ลูกค้าวีไอพี คาดเดาเหตุการณ์

     "ผิดครับ หลังจากที่พ่อเข้าไปช่วยแม่แล้ว ทั้งสองคนก็ยังคงไม่ถูกกันอยู่เหมือนเดิมครับ แต่วันนั้นการแข่งขันก็ต้องยกเลิกไประครับ เพราะแม่ไม่มีสมาธิในการทำอาหารแข่ง เมื่อการแข่งขันไม่เกิดขึ้น ก็ไม่มีผลการตัดสินแพ้-ชนะ ทั้งสองคนก็ยังคงแย่งลูกค้ากันอยู่เหมือนเดิม จนผ่านไปได้ 3 วัน แม่ก็จะไปท้าแข่งกับพ่อใหม่อีกรอบ แต่พอแม่ไปที่ร้านของพ่อ กลับไม่เจอพ่อ เจอแต่ลูกน้องของพ่อกำลังเอาป้ายมาติดที่หน้าร้านว่า หยุด 1 วัน ลูกน้องของพ่อบอกแม่ว่า พ่อถูกคนดักทำร้ายเมื่อคืนนี้ ซึ่งคนที่ดักทำร้ายพ่อก็คือ คนร้ายที่วิ่งราวกระเป๋า แล้วหนีตำรวจเข้ามาที่ร้านของแม่นั่นเอง และตอนนี้นี่เอง ที่ทั้งพ่อและแม่บอกกับผมว่า พอไม่ได้เห็นหน้าของกันและกัน ทำไมใจมันหวิวๆ ไม่มีกำลังใจทำอะไรเลย พ่อกับแม่บอกอีกว่า ทั้งๆที่ไม่ถูกกัน เกลียดกันจะตาย แต่ทำไมรู้สึกแปลกๆก็ไม่รู้ หรือนี่แหละที่เค้าเรียกว่า ยิ่งเกลียด ยิ่งรัก จนในที่สุดพ่อกับแม่ก็ยอมเปิดใจให้กัน รวมร้านเป็นร้านเดียวกัน คิดเมนูใหม่ขึ้น แล้วก็ตั้งชื่อร้านใหม่ว่า ไข่ยอ กะ ยำหมู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แล้วก็มีผมมาสานต่อความอร่อยนี่แหละครับ" เจ้าของร้าน เล่าไป ยิ้มไปอย่างมีความสุข

     "อืม เรื่องราวเป็นแบบนี้นี่เองนะครับ ยิ่งเกลียด ยิ่งรัก มีอยู่จริงสินะครับ ถ้างั้นผมก็ต้องขอขอบคุณ คุณหนึ่ง เจ้าของร้านไข่ยอ กะ ยำหมู ทายาทรุ่นใหม่ไฟแรง ที่จะทำให้ร้านนี้อยู่คู่กับเมืองไทยไปอีกนานด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ" ลูกค้าวีไอพี กล่าวคำขอบคุณเจ้าของร้าน พร้อมกับยกมือไหว้

     "สำหรับวันนี้ ก็คงเจอกันเพียงเท่านี้นะครับท่านผู้ชม หลังจากนี้ผมก็ขอจัดการอาหารเมนูเด็ดตรงหน้าทั้งสองเมนูต่อล่ะครับ ไว้เจอกันใหม่อาทิตย์หน้าครับ กับรายการ เมนูท้องร้อง สวัสดีครับ" พิธีกรกล่าวลาท่านผู้ชมทางบ้าน แล้วก็หันไปจัดการเมนูเด็ดตรงหน้าต่อทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น