ประชาชนสนใจการเมือง ก็ไม่แปลกอะไร เพราะทุกวันนี้การเมืองมีผลอย่างมากต่อชีวิตประจำวันของเรา การเมืองแทบจะแทรกแซงทุกๆอย่างในสังคมไปหมดแล้ว นั่นก็เพราะว่าการเมืองคือ การบริหารบ้านเมืองนั้นเอง
แต่สิ่งหนึ่งที่มีผลต่อการเมืองนั่นก็คือ พรรคการเมือง พรรคการเมืองแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลทำหน้าที่บริหารประเทศ ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล หากเห็นว่าไม่ถูกไม่ควร ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ค้านไปตามระเบียบ
ประชาชนตาดำๆที่เลือกพรรคการเมืองเข้ามาบริหารประเทศหนึ่งพรรค ก็โดยหวังว่าจะบริหารประเทศให้ก้าวหน้า และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ทุกวันนี้ในสังคมไทย พรรคการเมืองที่ได้เป็นรัฐบาลมักจะไม่ได้ทำผลงานอะไรที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าความเป็นอยู่ดีขึ้นแม้แต่น้อย ซ้ำร้ายยังรู้สึกแย่ลงด้วยซ้ำไป
ทางพรรคฝ่ายค้านเองก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีระดับหนึ่ง แต่เชื่อสิว่า การค้านไปซะทุกเรื่องก็ทำให้ประชาชนรำคานอยู่เหมือนกัน เพราะแทนที่ว่าถ้าเห็นแนวความคิดดีๆจากฝ่ายรัฐบาล ก็น่าจะสนับสนุนบ้าง แต่นี่ค้านทุกอย่าง น่ารำคานน่าดู
ทีนี้ลองสังเกตดูกันดีๆนะครับ ว่าพรรคการเมืองทั้ง 2 ฝ่าย มักจะชอบเอาประชาชนมาเป็นเครื่องมือ โดยการตั้งเวทีปราศรัยพูดถึงอีกฝ่ายฝั่งอยู่บ่อยๆ ยิ่งจัดเวทีมาก ประชาชนที่เข้าฟังการปราศรัยก็จะยิ่งเอนเอียงมากยิ่งขึ้น
ทำไมพวกท่านไม่ทำหน้าที่ในสภา ไม่ทำหน้าที่ของตัวเองไป ทำไมพวกท่านถึงต้องออกมาตั้งเวทีเพื่อหาประชาชนเป็นพรรคพวก ถ้าแบบนั้นแล้วประชาชนก็คือนักการเมืองใช่มั้ย
ทำไมพวกท่านไม่ปล่อยประชาชนรับรู้ข่าวสารการเมืองผ่านทางข่าวล่ะ พวกท่านกลัวประชาชนจะไม่สนับสนุนแนวทางของท่านใช่มั้ย ท่านถึงต้องออกมาตั้งเวทีชักจูงความคิดของประชาชนที่สนับสนุนท่านอยู่ เพื่อไม่ให้ประชาชนเหล่านั้นเปลี่ยนไปสนับสนุนอีกฝั่ง
ผมไม่ชอบทั้ง 2 ฝากฝั่งที่ออกมาตั้งเวทีนะครับ ผมมองว่ามันเหมือนกันชักจูงเกินไป...ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น